ก่อนหน้านี้ “กิมจิ” อาจเป็นแค่ของแกล้มเวลารับประทานอาหาร แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของ Sun An หญิงสาวที่ทำงานอยู่ในระดับหัวหน้าของบริษัทอาหารเกาหลี “กิมจิ” อาจกลายเป็นผงปรุงรสที่ทุกบ้านขาดไม่ได้
ยกระดับอาหารประจำประเทศ
กิมจิ คืออาหารที่แสดงความเป็นประเทศเกาหลีได้มากที่สุด ด้วยการที่ทุกครัวเรือนต้องมีติดไว้ ประกอบกับรสชาติ และวิธีทำที่ไม่มีประเทศใดเหมือน ประกอบกับคนในประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่เกาหลีเริ่มรู้จักกิมจิผ่านวัฒนธรรมเพลง หรือละครจากเกาหลี ก็ทำให้พวกเขาอยากลิ้มรสชาติกิมจิสักครั้ง
แต่การวางจำหน่ายกิมจิธรรมดาๆ ในต่างประเทศก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาเกินไป จุดนี้เอง Sun An จึงก่อตั้งบริษัท Food Culture Lab เพื่อพัฒนาผงปรุงรสกิมจิ ที่ใช้โรยบนอาหารต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ และให้ชาวต่างชาติลิ้มรสกิมจิได้อย่างสะดวกกว่าเดิม
“เราเริ่มพัฒนาเมื่อปี 2562 และวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Amazon เมื่อเดือนเม.ย. ในประเทศสหรัฐอเมริกา, ฟิลิปปินส์ และอินเดีย ซึ่งผลตอบรับนั้นออกมาค่อนข้างดี เพราะนอกจากชาวต่างชาติจะรู้จักกิมจิจากวัฒนธรรมเกาหลี บางคนยังรู้ว่ากิมจิอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ทางโภชนาการมากมาย” Sun An กล่าว
ผงปรุงรสกิมจิแบบมังสวิรัติเจ้าแรก
ทั้งนี้ Kimchi Seasoning Mix ของ Sun An คือผงปรุงรสกิมจิแบรนด์แรกที่เป็นมังสวิรัติ เพราะปกติแล้วนอกจากผักที่ใช้ในการทำกิมจิ ตัวซอสต้องอาศัยอาหารทะเลดองเค็ม เช่นกุ้ง, ปลาหมึก หรืออื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติเฉพาะตัวเข้าไป และตัวรสชาติอาหารทะเลดองเค็มนี้เองก็ดัดแปลงได้ค่อนข้างยาก
“เราค่อนข้างภูมิใจที่เราเป็นผงปรุงรสกิมจิแบรนด์แรกที่เป็นมังสวิรัติ เพราะต้องพัฒนาอยู่นาน แต่เมื่อสินค้าออกมาได้ มันก็ค่อนข้างตอบโจทย์เทรนด์ในปัจจุบันที่ผู้บริโภคหันมาเป็นมังสวิรัติมากขึ้น ประกอบกับผงปรุงรสกิมจิเรามีแลคโตบาซิลลัส และรสอูมามิ ทั้งไร้แป้ง และไม่มีผลิตภัณฑ์ GMO มันก็ยิ่งตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ”
ขณะเดียวกัน Sun An ยังเตรียมทำตลาด Kimchi Seasoning Mix ในตลาดยุโรป และอินโดนีเซียในอนาคต เพราะทั้งสองตลาดนี้ค่อนข้างใหญ่ และวัฒนธรรมเกาหลีเริ่มแพร่ไปที่ประเทศดังกล่าวแล้ว ที่สำคัญเธอยังเตรียมทำตลาดสินค้าตัวเองในเกาหลีเองด้วย เพราะเริ่มมีความต้องการหลั่งไหลเข้ามาจากลูกค้าที่ไปซื้อในต่างประเทศ
น้ำกิมจิอัดก๊าซคือผลิตภัณฑ์ใหม่
ไม่ใช่แค่ผงปรุงรสกิมจิ แต่ Sun An ยังเตรียมพัฒนาน้ำกิมจิอัดก๊าซภายในปีนี้ โดยรสชาติจะคล้ายกับ Dongchimi หรือซุปหัวไชเท้าต้มกิมจิ ถือเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ชี้ให้เห็นว่ากิมจิไม่ใช่แค่อาหารแกล้มในมื้ออาหาร แต่สามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้
สำหรับ Food Culture Lab ได้ทำการสำรวจ และพบว่ากลุ่มผู้หญิงในสหรัฐอเมริกาอายุระหว่าง 30-40 มีการซื้อ Kimchi Seasoning Mix เพื่อไปโรยในอาหารต่างๆ เช่นสลัด, ไก่ทอด, พิซซ่า และฮอทดอก เป็นต้น รวมถึงมีการนำไปผสมกับซอสมายองเนสเพื่อทำเป็นซอสสำหรับจิ้มเช่นกัน
เห็นอย่างนี้แล้วก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Kimchi Seasoning Mix จะกลายเป็นผงปรุงรสที่ต้องติดโต๊ะอาหารทั่วโลกเหมือนกับซอส Tabasco หรือศรีราชา ได้หรือไม่ เพราะทั้งคู่ต่างมีความเผ็ด และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งรสเผ็ดของกิมจินั้นก็ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน
สรุป
เห็นอย่างนี้แล้วก็นึกถึงน้ำพริกบ้านๆ หรือเมนูส้มตำของประเทศไทยเหมือนกัน เพราะขนาดกิมจิยังพัฒนาเป็นผงปรุงรสที่ใช้โรยกับอาหารเมนูไหนก็ได้ ดังนั้นมันน่าจะประยุกต์รสชาติแบบไทยๆ ไปแข่งขันในตลาดโลกได้เหมือนกัน ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า จะมีแบรนด์ใดฝันไกลถึงจุดนั้นหรือไม่
อ้างอิง // Korea Herald, Food Culture Lab
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา