Panasonic เข้ามาตั้งโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2522 และปัจจุบันมีพนักงานกว่า 800 คน แต่ในปี 2564 โรงงานแห่งนี้จะปิดตัวลงแล้ว เพราะ Panasonic จะย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม
ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเริ่มไม่คุ้มค่า
เหตุผลในการย้ายฐานการผลิตของ Panasonic ครั้งนี้หลักๆ น่าจะมาจากต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้นของแรงงานในประเทศไทย รวมถึง Panasonic มีโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในประเทศเวียดนามที่มีกำลังการผลิตมากที่สุดในอาเซียนอยู่แล้ว ดังนั้นการย้ายโรงงานไปอยู่ในที่เดียวกันย่อมประหยัดต้นทุนมากกว่า
ขณะเดียวกัน Panasonic อยู่ระหว่างเดินหน้าแผนปรับโครงสร้างองค์กร มีเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายกว่า 1 แสนล้านเยน (ราว 30,000 ล้านบาท) ภายในปีปฏิทินที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2565 ส่วนการปิดโรงงานในประเทศไทยจะเริ่มต้นที่การหยุดผลิตเครื่องซักผ้าในเดือนก.ย. 2563 และตู้เย็นเดือนต.ค. 2563 ก่อนปิดโรงงานในเดือนมี.ค. 2564
ทั้งนี้พนักงานในโรงงานแห่งนี้กว่า 800 คนจะถูกเลิกจ้างทั้งหมด แต่ Panasonic จะช่วยเหลือเรื่องการหางานใหม่ให้ นอกจากนี้ศูนย์วิจัย และพัฒนาของบริษัทที่อยู่ระแวกเดียวกับโรงงานดังกล่าวจะปิดตัวเช่นเดียวกัน ส่วนโรงงานในประเทศเวียดนามนั้นมีพนักงานกว่า 8,000 คน และยังเหลือกำลังการผลิตเครื่องซักผ้า และตู้เย็นอยู่
การย้ายฐานการผลิตของ Panasonic สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างโรงงานในพื้นที่ใหม่ของบริษัทญี่ปุ่น เพราะช่วงศตวรรษที่ 70s (พ.ศ.2513-2522) บริษัทญี่ปุ่นเริ่มย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศมาที่สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพราะค่าเงินเยนแข็ง แต่เมื่อค่าแรงในสิงคโปร์เพิ่มขึ้น ไทยจึงเป็นเป้าหมายถัดไป และตอนนี้กำลังไปที่อื่นแล้ว
สรุป
งานนี้โทษใครไม่ได้ เพราะ Panasonic ต้องควบคุมค่าใช้จ่ายจริงๆ และทางนั้นก็มีโรงงานขนาดใหญ่ที่ประเทศเวียดนามอยู่แล้ว แถมที่นั่นความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น Panasonic ก็ต้องตัดสินใจแบบนี้ เพื่อประหยัดต้นทุนตามแผนที่วางไว้
อ้างอิง // Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา