อาจจะเป็นข่าวใหญ่ในวงการโทรคมนาคม และโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง เพราะ Verizon ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจโทรคมนาคม เตรียมตัวเข้าซื้อกิจการ Charter เบอร์ 2 ของผู้ให้บริการเคเบิลทีวีแล้ว
จากมีสาย สู่ TV Anywhere
สำหรับดีลธุรกิจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก AT&T คู่แข่งคนสำคัญของ Verizon เข้าซื้อกิจการของ Time Warner เบอร์หนึ่งของธุรกิจ Pay TV เมื่อปลายปีก่อน เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตแบบไร้สายกันมากขึ้น ดังนั้นคงไม่แปลกที่ Verizon จะทำตามบ้าง โดยดีลธุรกิจกับ Charter นั้นเหลืออีกไม่กี่ขั้นตอน หรือรอแค่ธนาคารอนุมัติก็เกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว ที่สำคัญ Lowell McAdam ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Verizon ยังกล่าวอย่างเต็มปากว่า ดีลธุรกิจนี้ถือเป็นการก้าวไปสู่โลกผู้ให้บริการโทรทัศน์ในอนาคตอีกด้วย
ขณะเดียวกันผู้บริโภคใช้ชีวิตแบบไร้สายกันมากขึ้น ประกอบกับเทรนด์การรับชมรายการโทรทัศน์เริ่มลดง ทำให้ธุรกิจ Pay TV ต้องปรับตัว ซึ่งการนำความต้องการของทั้งสองฝั่ง หรือผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ต้องการเพิ่มยอดใช้งานในระบบของตนเอง ผ่านคอนเทนต์ใหม่ๆ กับผู้ทำธุรกิจ Pay TV ที่ต้องการเอาตัวรอดจากวิกฤติดังกล่าวจึงเกิดขึ้น โดยทาง Verizon ก็สามารถใช้สายเคเบิลเส้นเดิมต่อยอดบริการ Streaming TV ผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ และมี TV Anywhere ตอบโจทย์การรับชมภายนอก ส่วน Charter ก็ใช้ข้อได้เปรียบในการมีฐานผู้ชมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการต่อรองซื้อรายการต่างๆ เช่นกัน
อย่างไรก็ตามถึงดีลนี้เกิดขึ้น ก็ไม่ได้หมายความว่า ธุรกิจ Pay TV แบบดั้งเดิมจะหายไปจากตลาด เพราะจริงๆ แล้ว ผู้บริโภคกำลังหาช่องทางรับชม Pay TV แบบใหม่มากกว่า เช่นบริการ DirecTV ของ AT&T ที่ให้บริการแบบไม่คิดค่าดาต้าเมื่อรับชมบนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ทำให้มียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะต้องเสียค่าสมาชิก 35 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (ราว 1,200 บาท) ก็ตาม แสดงให้เห็นถึงความต้องการรับชมคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผู้บริโภคยังมีอยู่ รวมถึงพวกเขายอมจ่ายเงินเพื่อดูอีกด้วย ดังนั้นคงเหลือแค่การปรับแพ็คเกจ รวมถึงช่องทางการรับชมเพื่อรักษาการอยู่รอดของธุรกิจเอาไว้
สรุป
ต้องรอดูกันว่าดีลระหว่าง Verizon กับ Charter จะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ แต่จากเหตุการณ์นี้ รวมถึงกรณี AT&T ทุ่มเงิน 85,400 ล้านดอลลาร์ (ราว 3 ล้านล้านบาท) เพื่อซื้อ Time Warner เจ้าของ HBO ก็แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของ Pay TV ยังมีอยู่ และมันสามารถเอาไปต่อยอดธุรกิจได้หลากหลาย
ซึ่งก็ต้องมองย้อน Pay TV ไทยว่าตอนนี้เหลือกี่ราย และพวกเขากำลังทำอะไรอยู่บ้าง หากไม่ปรับตัว ก็จะถูกผู้เล่นรายใหม่อย่างกลุ่ม VOD (Video on Demand) แซงไปแบบไม่เห็นฝุ่นแน่นอน
อ้างอิง // How a blockbuster Verizon-Charter combination could shake up the TV business
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา