Grant Shapps รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมประกาศทุ่มงบประมาณส่งเสริมให้คนเดินหรือปั่นจักรยานไปทำงาน 2 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 7.9 หมื่นล้านบาท แผนคมนาคมนี้จะช่วยลดความหนาแน่นการคมนาคมขนส่งมวลชนและความหนาแน่นบนท้องถนนได้
Shapps กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวน่าจะช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมประเทศและสุขภาพผู้คนให้ดีขึ้นหลังจากเผชิญโรคโควิด-19 ระบาดมาเนิ่นนาน
นอกจากนี้ Shapps รัฐมนตรีคมนาคม ยังกล่าวว่า การรับมือโควิด-19 ของอังกฤษ คงไม่ปล่อยให้ประชาชนใช้ชีวิตอิสระโดยทันที แต่จะใช้วิธีแบบค่อยเป็นค่อยไป จากนี้ไป ประชาชนจะสามารถปั่นจักรยานหรือเดินได้มากขึ้น ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ผู้คนแข็งแรงมากขึ้น เพราะได้พัฒนาทั้งในทางสุขภาพกายและสุขภาพจิต
ตามสถิติการใช้จักรยานของอังกฤษในปี 2018 มีราว 1.7% และไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมายาวนานราว 17 ปีแล้ว ขณะที่สัดส่วนการใช้ถนนนั้น เมื่อแบ่งแยกประเภทตามยานพาหนะโดย Cycling UK ระบุว่าอังกฤษมีสัดส่วนการใช้ถนน ดังนี้
- รถจักรยานยนต์ 0.8%
- รถบัสและรถโค้ช 1.0%
- รถจักรยาน 1.0%
- รถขนาดใหญ่ 5.2%
- รถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก 15.4%
- รถยนตร์และรถแท็กซี่ 76.9%
Britain – let’s #GetPedalling ??♂ ?
People are #cycling and #walking more than ever, so we’re investing £2bn to create more space for people to cycle and walk while safely following social distancing guidelines.
Find out more ? https://t.co/1QCIxjjVEq pic.twitter.com/G44vvWOQMf
— Dept for Transport #StayHomeSaveLives (@transportgovuk) May 9, 2020
อังกฤษประกาศแผนลงทุนด้านขนส่งมวลชนราว 5 พันล้านปอนด์ หรือ 1.9 แสนล้านบาทตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุงบประมาณที่แน่นอนว่าจะใช้จ่ายไปกับเรื่องใดบ้าง
โฆษกกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า รัฐบาลจะใช้งบประมาณราว 2 พันล้านปอนด์ หรือ 7.9 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาเส้นทางสำหรับให้คนเดินและขี่จักรยานไปทำงานได้สะดวกขึ้น ซึ่งแผนการดังกล่าวนั้นจะแยกย่อยออกมาเป็นเส้นทางฉุกเฉินสำหรับขี่จักรยานและเดินได้อย่างปลอดภัย ด้วยงบประมาณราว 250 ล้านปอนด์ หรือ 9.9 พันล้านบาทในการสร้างเลนจักรยาน และขยายทางเท้าให้กว้างขึ้น
แผนการดังกล่าวจะช่วยให้คนเดินทางไปทำงานด้วยการเดินหรือขี่จักรยานทั่วอังกฤษได้มากขึ้นในช่วงที่มีโรคระบาด และช่วยให้ผู้คนมีทางเลือกในการเดินทางจากขนส่วมวลชนมากขึ้น รัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณและทำงานร่วมกับท้องถิ่นทั่วประเทศเพื่อช่วยให้คนเดินทางได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ อังกฤษยังเตรียมสร้าง bike Tube (ทางปั่นจักรยานใต้ดิน) ระยะทาง 150 ไมล์ (หรือประมาณ 241.40 กิโลเมตร)
นอกจากนี้ อังกฤษยังเตรียมเพิ่มมาตรการที่จะทำให้มีการเดินเท้าและขี่จักรยานมากขึ้นเป็น 2 เท่าในปี 2025 (อีก 5 ปีข้างหน้า) และเตรียมออกแคมเปญสนับสนุนให้คนเลือกเดินทางด้วยวิธีอื่นเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเดินหรือขี่จักรยานก็ตาม รวมถึงสร้างทางสำหรับให้คนใช้ E-scooter ด้วย ซึ่ง Andy Street นายกเทศมนตรี West Midlands กล่าวว่า E-scooter จะช่วยตอบโจทย์ทั้งในด้านรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดความยืดหยุ่น และทำให้ผู้คนอยากจอดรถไว้ที่บ้านแทน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น โดยจะใช้งบประมาณราว 10 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 12.4 ล้านบาท ทำสถานีชาร์จรถไฟฟ้าให้ด้วย เบื้องต้นจะติดตั้งราว 7,200 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้คนที่ขับรถยนต์ไฟฟ้า
นอกจากนี้ อังกฤษยังเตรียมพัฒนาแอปพลิเคชัน สำหรับเตือนประชาชนช่วงไหนที่เดินทางหนาแน่น เส้นจราจรไหนที่คับคั่ง ก็สามารถเลี่ยงไปในช่วงที่รถแน่นขนัดบนท้องถนนได้
ที่มา – Quartz, CyclingUK, Gov UK
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา