เตรียมสร้างห้องแล็บให้พนักงานตรวจเชื้อไวรัส
สัปดาห์ที่ผ่านมา Amazon อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ประกาศสร้างห้องแล็บของตนเองเพื่อตรวจเชื้อไวรัสของพนักงานทั้งบริษัท
Amazon บอกว่าจะระดมนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้จัดการของบริษัท และอีกหลายภาคส่วนเพื่อสร้างห้องแล็บตรวจเชื้อเชื้อโรคโควิดให้สำเร็จ เนื่องจากการตรวจเชื้อให้ได้มากที่สุดจะป้องกันการกระจายของเชื้อไวรัสโรคโควิดที่ได้ผลที่สุด
ปัจจุบัน Amazon มีจำนวนพนักงานทั้งหมด 798,000 คน (ตัวเลขจำนวนพนักงานอัพเดทล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2019 โดยในปัจจุบันอาจมีจำนวนสูงกว่านี้ เนื่องจาก Amazon ประกาศรับพนักงานใหม่ในช่วงวิกฤตโควิดไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 แสนราย)
- สวนกระแส Amazon ประกาศจ้างงานเพิ่มอีกแสนตำแหน่ง เอามาทำเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ สู้ COVID-19
- เท่าไรก็ไม่พอ Amazon จ้างอีก 75,000 ตำแหน่ง หลังจ้างไปแล้ว 1 แสนตำแหน่ง
Amazon ระบุในโพสต์ของบริษัทว่า “การขยายการตรวจหาเชื้อไวรัสให้ออกไปกว้างมากที่สุดในระดับโลกและในทุกอุตสาหกรรมจะทำให้ผู้คนปลอดภัยมากขึ้น ส่วนในแง่เศรษฐกิจก็ยังคงเดินหน้าต่อไปได้”
นึกว่าเป็นประเทศไปแล้ว
ส่วนการที่บอกว่า “นึกว่าเป็นประเทศไปแล้ว” เนื่องจากหนึ่งในหน้าที่หลักของรัฐชาติ (Nation State) คือการปกป้องคุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชน/พลเมืองในประเทศของตนเอง
แต่เมื่อมองดู Amazon ซึ่งมีฐานะเป็น “บริษัทยักษ์ใหญ่” ที่:
- มีมูลค่าตลาด (marke Cap) เกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ($1 trillion company)
- มีพนักงานเกือบ 8 แสนคนทั่วโลก
- มีบริการเรือธงอย่าง Amazon Prime ซึ่งมีสมาชิกกว่า 150 ล้านคนทั่วโลก
- มีรายได้รวมในปี 2019 อยู่ที่ 2.81 แสนล้านดอลลาร์ เทียบเท่าได้กับตัวเลขคาดการณ์ GDP ของประเทศปากีสถานในปี 2019
- เตรียมสร้างห้องแล็บตรวจเชื้อไวรัสให้กับพนักงานทั้งบริษัท
[opinion] การจัดการเชิงรุกต่อโรคระบาดของ Amazon ที่แข็งแกร่ง ทำให้คาดการณ์ถึงเหตุการณ์สมมติได้ว่า หากสถานการณ์ไวรัสในสหรัฐอเมริกาเลวร้ายขึ้นกว่านี้ รัฐบาลอาจประกาศให้ Amazon ต้องปิดคลังสินค้าหรือธุรกิจเดลิเวอรี่ในบางพื้นที่ แต่ Amazon อาจจะโต้ตอบด้วยการบอกว่า พนักงานของเราได้ทำการตรวจหาเชื้อไวรัสจากห้องแล็บที่เราสร้างขึ้นเองเรียบร้อยแล้ว และผลปรากฏว่า เราไม่พบพนักงานที่ติดเชื้อไวรัสในคลังสินค้าที่รัฐบาลต้องการสั่งปิดแต่อย่างใด
นี่คือพลังของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับล้านล้านเหรียญ!
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา