ไม่ใช่แค่ไข่ที่แพง ภัยแล้งทำพิษ ดันข้าวสารไทย-เวียดนามในตลาดโลกราคาสูงสุดในรอบ 6 ปี

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาความต้องการไข่ไก่ในท้องตลอดเพิ่มสูงขึ้น จนขาดตลาด หลายคนหาซื้อไข่ไก่ไม่ได้ หรือหากซื้อได้ก็มีราคาที่แพงเกินจริง มาวันนี้ราคาข้าวสารในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 ปี เพราะทั้งไทย และเวียดนามประสบกับภาวะภัยแล้งอย่างหนัก

ราคาข้าวสารในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 ปี เป็นเพราะผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกทั้งไทย และเวียดนามต้องเผชิญกับภาวะภัยแล้งอย่างหนัก ประกอบกับความต้องการข้าวที่เพิ่มสูงขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ภาพ pixabay.com

ในขณะนี้ข้าวสารจากไทย มีราคาสูงถึง 550 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อตัน หรือประมาณ 17,946.50 บาท เป็นราคาที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2013 ส่วนข้าวสารจากเวียดนาม มีราคา 400 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อตัน หรือประมาณ 13,055.20 บาท เป็นราคาที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018

หน่วยงานด้านการเกษตรของสหรัฐอเมริกาคาดการณ์ว่าในปีนี้ ทั่วโลกจะสามารถปลูกข้าวเป็นผลผลิตได้กว่า 500 ล้านตัน แต่ส่วนใหญ่เป็นการบริโภคภายในประเทศ ส่วนการค้าข้าวทั่วโลกคาดว่าในปีนี้จะมีปริมาณ 45.3 ล้านตัน

จากสถิติในปี 2018 ไทยส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ 11.1 ล้านตัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 23% ในขณะที่เวียดนามส่งออกข้าว 6.6 ล้านตัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 14% ส่วนในปีนี้กลุ่มผู้ส่งออกข้าวในไทยคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกจะลดลงเหลือเพียง 7.5 ล้านตันเท่านั้น

ปัญหาภัยแล้งส่งผลต่อการเพาะปลูกข้าวของทั้งไทย และเวียดนาม ภาพจาก pixabay.com

ภัยแล้งสาเหตุหลักทำผลผลิตลด

สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น คือ ทั้งไทยและเวียดนามต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในเวียดนาม ที่ปริมาณลดลงกว่า 30% ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ไม่ใช่แค่ปริมาณฝนเท่านั้น แต่การสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง กว่า 11 เขื่อนในประเทศจีน ยิ่งทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงลดลง ส่งผลต่อน้ำทะเลที่หนุนเข้ามาแทนที่ เพราะเวียดนามอาศัยน้ำจากแม่น้ำโขงสำหรับทำการเกษตร

ส่วนในไทย ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดการณ์ว่าปริมาณข้าวสารที่ได้จากการเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-กรกฎาคม ปีนี้จะลดลงประมาณ 50%

ที่มา – nikkei

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา