บริดจสโตน ควบรวมกิจการ A.C.T เปลี่ยนใช้ชื่อ COCKPIT เสริมแกร่งธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์

ศูนย์บริการรถยนต์ หรือ เรียกว่า ฟาสต์ฟิต คือการให้บริการบำรุงรักษารถยนต์แบบครบวงจร เช่น บริการเปลี่ยนยางรถยนต์, น้ำมันเครื่อง, เบรก, โช้คอัพ, แบตเตอรี่ และการบำรุงรักษารถยนต์ มีการแข่งขันหนักหน่วงพอสมควร ด้วยจำนวนผู้ใช้รถในบ้านเราที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

ทำให้ล่าสุด บริดจสโตน วางแผนบุกตลาดศูนย์ให้บริการรถยนต์แบบครบวงจรมากขึ้น จึงได้ควบรวมกิจการกับ A.C.T (แอค) และเปลี่ยนชื่อศูนย์บริการทั้งหมดเป็นเชื่อ COCKPIT (ค็อกพิท)

ธนวัฒน กิตติรัตนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า การแข่งขันมีทั้งการขยายสาขาและโปรโมชั่นต่างๆ แต่เชื่อมั่นว่าแบรนด์ COCKPIT เป็นที่รู้จักอย่างดี และได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมากกว่า ดังนั้นจึงใช้ชื่อแบรนด์ COCKPIT ในการบุกตลาดฟาสต์ฟิต โดยเน้น 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1. ยกระดับศูนย์บริการ 2. นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย 3. ขยายสาขาทั่วประเทศ

การยกระดับเป็นศูนย์บริการที่ครบวงจร มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น ยาง (นอกจากยางรถยนต์แบรนด์ Bridgestone, Firestone และ Dayton แล้ว ค็อกพิทจะนำยางแบรนด์อื่นๆ มาให้บริการลูกค้า ณ ศูนย์บริการด้วย) น้ำมันเครื่อง (บริการเปลี่ยนถ่ายและจำหน่ายน้ำมันเครื่องคุณภาพ) แบตเตอรี่ (บริการจำหน่ายและเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ) เบรค (บริการครบครันเพื่อประสิทธิภาพด้านระบบเบรคของรถยนต์) โช้คอัพ (บริการติดตั้งโช้คอัพด้วยเทคโนโลยีทันสมัยพร้อม คุณภาพที่ผ่านมาตรฐานกระบวนการผลิต) และการบำรุงรักษารถยนต์ (เพื่อให้รถของคุณสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพบนความปลอดภัยในทุกการเดินทาง) และการขยายสาขาทั่วไทย โดยเริ่มจากการเปลี่ยน A.C.T ทุกสาขาเป็น COCKPIT โดยตั้งเป้าหมายให้มีสาขาทั่วประเทศไทยมากกว่า 300 สาขาในปี 2563 

จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค จะเลือกใช้บริการจากศูนย์บริการที่มีมาตรฐาน มีบริการหลังการขายที่ดี สะดวกในการเข้าใช้บริการ อยู่ใกล้ที่พัก-ที่ทำาน และมีบริการหลากหลายครบวงจร คาดว่าหลังจากควบรวม เปลี่ยนแบรนด์เรียบร้อยแล้ว COCKPIT จะมีจำนวนสาขาให้บริการมากที่สุดในประเทศ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา