ธนาคารทหารไทยชี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์น่ากังวล มีแนวโน้มขาดสภาพคล่อง โดยกรุงเทพธุรกิจเผยบทสัมภาษณ์ นริศ สถาผลเดชา ผู้บริหารศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ หรือ TMB Analytics ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ภาคธรุกิจหันมาออกหุ้นกู้มากขึ้น ตัวเลข 11 เดือนของปีนี้อยู่ที่ 1.038 ล้านล้านบาท จากปี 2561 อยู่ที่ 8 แสนล้านบาทเท่านั้น
การออกหุ้นกู้เรทติ้งต่ำกว่าระดับ BBB และหุ้นกู้ไม่มีเรทติ้ง (Non rated) เพิ่มขึ้น อยู่ที่ 2.99 แสนล้านบาท จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 2.14 แสนล้านบาทเท่านั้น
(หุ้นกู้ระดับ BBB คือหุ้นกู้ที่มีระดับเครดิตต่ำ – ปานกลาง ซึ่งประกอบด้วย BBB+, BBB และ BBB- ยิ่งมีระดับเครดิตต่ำ ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ก็สูง สำหรับเครดิตที่อยู่ในระดับปานกลางถึงสูงจะอยู่ที่ระดับ A- ถึง AAA)
(Non-rated bond คือหุ้นกู้ที่ไม่ได้ถูกจัดอันดับความน่าเชื่อถือ คือไม่มีเครดิตเรทติ้ง หุ้นกู้ non-rated จะให้ดอกเบี้ยอัตราสูง ความเสี่ยงหลักของหุ้นกู้คือ ผู้ออกไม่สามารถใช้คืนเงินต้นหรือจ่ายดอกเบี้ยได้)
หุ้นกู้ non-rated ทั้งหมดมีอยู่ 3.5 หมื่นล้านบาท สัดส่วนกว่า 60% มาจากภาคอสังหาริมทรัพย์ สะท้อนว่า ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หันมาออกหุ้นกู้ไม่มีเรตติ้งมากขึ้น หุ้นกู้นี้ขยับเพิ่มมาอยู่ที่ 2.13 หมื่นล้านบาท เติบโตมากขึ้นราว 20%
เมื่อเทียบกับ 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า การออกหุ้นกู้ไม่มีเรทติ้งของภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท ปัจจัยที่น่ากังวลคือภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่ในทิศทางชะลอตัว สะท้อนให้เห็นถึงการขาดสภาพคล่องของภาคธุรกิจอสังหาฯ ที่มากขึ้น
นริศกล่าว “การขาดสภาพคล่องของภาคอสังหาฯ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภาคธุรกิจนี้ออกหุ้นกู้นอนเรทมากขึ้น เพราะแบงก์เองอาจระมัดระวังการให้สินเชื่อกับกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ มากขึ้น คือการชะลอตัวของภาคอสังหาฯ ที่ชัดเจน”
“ขณะที่ธุรกิจยังต้องการสภาพคล่องไปใช้หมุนเวียนในธุรกิจ เพราะหากซื้อที่ดินไปแล้ว เงินจม เอาที่ดินไปพัฒนาต่อไม่ได้ สภาพคล่องก็ยิ่งขาด ทำให้ธุรกิจนี้ต้องหาทางเลือกในการหาสภาพคล่องใหม่มากขึ้น”
ปัจจุบันการออกหุ้นกู้เอกชน เติบโตมากกว่าสินเชื่อธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ คาดว่าปี 2562 จะเติบโตถึง 19% ขณะที่สินเชื่อธุรกิจเติบโตเพียง 2% เท่านั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ปล่อยให้ภาคธุรกิจน้อยลง ทำให้ผู้กู้เอกชนหันไปออกหุ้นกู้ตรงมากขึ้น
คาดว่าปีหน้าหุ้นกู้เอกชนจะยังเติบโตต่อเนื่อง หรือปรับเพิ่มขึ้นแตะ 1.28 ล้านล้านบาท หุ้นกู้ที่มีเรทติ้งต่ำจะมีสัดส่วนมากขึ้น น่าจะโตมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะต้นทุนออกหุ้นกู้ต่ำ ภาคธุรกิจก็ต้องการสภาพคล่องมากขึ้น
ที่มา – กรุงเทพธุรกิจ, ThaiBMA, SET
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา