รายงานจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ นั้นได้รายงานว่าหนี้ทุกประเทศรวมกันล่าสุดอยู่ที่ 250 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเทศสร้างหนี้มากสุดคือสหรัฐและจีน
สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (Institute of International Finance) ได้ออกรายงานล่าสุดถึงสถานการณ์หนี้ทั่วโลก ว่าครึ่งปีแรกของปี 2019 หนี้ทั่วโลกรวมกันล่าสุดอยู่ที่ 250 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยถ้าหากหารเฉลี่ยทุกคนกับประชากรโลก 7,700 ล้านคนแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 32,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 983,125 บาท ซึ่งแสดงถึงสถานการณ์หนี้ทั่วโลกนั้นไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
สำหรับประเทศที่สร้างหนี้มากที่สุดในโลกคือ สหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งหนี้รวมกันแล้วคิดเป็นสัดส่วน 60% ของหนี้ทั้งหมดในโลกนี้ โดยหนี้ของรัฐบาล 2 ประเทศนี้อยู่ราวๆ 70 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เทียบได้กับหนี้ทั้งหมดของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมด
ถ้าหากแยกประเภทของหนี้ทั้งหมด หนี้จากรัฐบาลนั้นยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้นั้นเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.5% ขณะที่หนี้ของเอกชนถ้าหากไม่นับรวมกับสถาบันการเงินแล้ว เติบโตประมาณ 1% นอกจากนี้ในรายงานของสถาบันการเงินระหว่างประเทศนั้นได้แสดงให้เห็นว่าหนี้ของรัฐวิสาหกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนานั้นมีระดับหนี้ที่สูงว่าเอกชนด้วยซ้ำ
สถาบันการเงินระหว่างประเทศ ยังได้เตือนถึงประเทศกำลังพัฒนาที่เติบโตด้วยการกู้ยืมสกุลเงินจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ ตุรกี เม็กซิโก ชิลี ฯลฯ อาจเกิดความเสี่ยงได้ทันทีจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปีนี้นั้นหนี้รวมทุกประเทศจะอยู่ที่ราวๆ 255 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ก่อนหน้านี้ IMF เคยได้ออกคำเตือนถึงเรื่องหนี้ของภาคเอกชนที่สูงถึง 19 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 40% จากประเทศพัฒนาเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เยอรมัน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ถ้าหากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นมา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา