THRobotics ผู้นำเข้า iRobot หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านอัจฉริยะแบรนด์อันดับหนึ่งจากประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ตอบรับกระแสมลพิษในเมือง เปิดตัว “IQAir” (ไอคิว แอร์) เครื่องกรองอากาศและเครื่องวัดคุณภาพอากาศประสิทธิภาพสูงจากสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของเดียวกับแอปพลิเคชั่นวัดคุณภาพอากาศชื่อดัง AirVisual ที่ประชากรไทยติดตามมากกว่า 14 ล้านคน โดย IQAir มีทั้งสินค้าระดับ Mass Premium และ Premium ชูจุดเด่นกรองได้ละเอียดขั้นสูง อนุภาคเล็กกว่า PM 2.5 ได้ถึง 800 เท่า เจาะกลุ่มครอบครัว โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน ผู้ใช้รถยนต์ และคนรักสุขภาพทุกเพศทุกวัย ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 25% และเติบโต 100% ใน 5 ปี
ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์ กรรมการบริหาร บริษัท ทีเอช โรโบติก จำกัด ผู้นำเข้าหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านอัจฉริยะ iRobot จากประเทศสหรัฐอเมริกา เผยว่า “ในปี 2018 “ประเทศไทย” ติดอันดับ ค่า PM 2.5 สูงเป็นอันดับที่ 23 ของโลก ซึ่งหากเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศเรามี 10 เมืองที่ติดอันดับ 15 เมืองที่มีคุณภาพอากาศ PM 2.5 ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ล่าสุดบริษัทฯ จึงได้นำ “IQAir” แบรนด์เครื่องกรองอากาศ และเครื่องวัดคุณภาพอากาศประสิทธิภาพสูงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของเดียวกับแอปพลิเคชั่นวัดคุณภาพอากาศชื่อดังอย่าง AirVisual เข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย”
ม.ล.พลอยนภัส กล่าวต่อไปว่า “IQAir เป็นเครื่องกรองอากาศและเครื่องวัดคุณภาพอากาศประสิทธิภาพสูง ออกแบบโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญและการผลิตที่ได้มาตรฐานที่ดีที่สุด โดยมีคุณสมบัติสำคัญ คือ แผ่นกรองมีความละเอียดที่ 0.003 ไมครอน สามารถกรองอนุภาคที่เล็กกว่า PM2.5 ได้ถึง 800 เท่า ดักจับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคภัยใกล้ตัว ทั้งไข้หวัดใหญ่ โรค RSV (โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ) โรคมือเท้าปาก แบคทีเรีย รวมถึงเชื้อรา นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันสารก่อภูมิแพ้ และ VOC สารเคมีรอบตัวเราที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ที่ระเหยมาจากเฟอร์นิเจอร์ สี และวอลเปเปอร์ มีเทคโนโลยีการออกแบบโครงสร้างภายในแบบสุญญากาศ ช่วยป้องกันอากาศรั่วไหลออกจากตัวเครื่อง ให้อากาศทั้งหมดไหลผ่านชั้นแผ่นกรองต่างๆ ก่อนปล่อยอากาศสะอาดออกมาสู่สภาพแวดล้อม”
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ IQAir กลุ่มแรก คือ ครอบครัว ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องกรองอากาศในบ้านพักอาศัย และโรงพยาบาลซึ่งต้องการป้องกันเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงสถานที่ ที่ต้องปลอดฝุ่นและเชื้อโรค เช่น สถาบันการศึกษา อาคารสำนักงาน โรงงาน ศูนย์บริการแบบปิด เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมด้วยอากาศที่สะอาดให้กับผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์คนเมืองที่เป็นผู้ใช้รถยนต์ เนื่องจากหลายคนตระหนักถึงปัญหาด้านคุณภาพอากาศในประเทศไทยที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย อีกทั้งคุณภาพอากาศยังมีแนวโน้มที่แย่ลงในทุกวัน IQAir จึงเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในเมืองไทย
“IQAir ถือเป็นสินค้าที่จัดอยู่ในกลุ่มประเภท Mass Premium และ Premium โดยสินค้าที่อยู่ในกลุ่ม Mass Premium ได้แก่ IQAir Atem Desk สำหรับใช้ในห้องนอน และโต๊ะทำงาน และ IQAir Atem Car เครื่องกรองอากาศภายในรถยนต์คุณภาพสูง สามารถดักจับ PM 2.5 และอนุภาคที่เล็กกว่าถึง 800 เท่า นอกจากนี้ ยังสามารถกรองเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา รวมถึงสารเคมีจากน้ำมันของรถที่อยู่บนท้องถนนได้เป็นอย่างดี โดยราคาของ IQAir Atem Desk และ IQAir Atem Car อยู่ที่ 26,900 บาท ส่วนสินค้าที่อยู่ในกลุ่ม Premium ได้แก่รุ่น IQAir HealthPro 100, 150, 250 และ GC Multi Gas โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 45,900 – 79,900 บาท”
THRobotics มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการให้บริการทั้งการขายและการบริการหลังการขาย โดยมีทีมงานที่พร้อมให้บริการด้านช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง และหาซื้อได้ง่ายทั้งทาง Online เช่น Facebook (IQAirThailand) , Instragram (IQAir.Thailand), Line@ (@IQAirThailand), รวมถึงเว็บไซต์ HYPERLINK “http://www.iqualityair.com” www.iqualityair.com และแอปพลิเคชั่น e-commerce ต่างๆเช่น Kingpower, Central, Robinson, His, Lazada, Shopee, JDcentral, Tohome, Homepro, .Life, Thaiware รวมถึงหน้าร้านกว่า 40 แห่ง อาทิ Central, Siam Paragon, The Mall, . Life, Homepro, Modern Air, Gizman และ Habitech อีกทั้งยังมีทีมงานที่เน้นการขายให้หน่วยงานหรือองค์กร อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ เพื่อครอบคลุมการขายในทุกช่องทาง พร้อมทีมการตลาดที่เดินหน้าทำการตลาดที่เน้นในเรื่องแบรนด์และคุณภาพสินค้าที่ดีที่สุดในทุกช่องทาง
“ทั้งนี้ IQAir ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด (market share) สินค้าจากกลุ่ม Premium และ Mass Premium จะสามารถครองตลาดที่ 25% ในปีแรก โดยจะเติบโตอีก 30% ในปีถัดไป และขยับเป็น 100% ภายใน 5 ปีข้างหน้า” บิ๊กบอส ทีเอช โรโบติก กล่าว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา