Peter Brabeck-Letmathe ประธานกิตติคุณ อดีตประธานและ CEO เนสท์เล่ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอาหารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เห็นโอกาสจากสังคมผู้สูงวัย เตรียมเปิดพัฒนาอาหารตอบโจทย์สังคมสูงวัย โดยวิเคราะห์ถึงช่องทางสร้างความร่ำรวยจากความท้าทายจากสังคมสูงวัยนี้ว่า
- โลกกำลังมีประชากรเพิ่มขึ้นจาก 8 พันล้านรายเป็น 1 หมื่นล้านราย
- สังคมสูงวัยกำลังต้องการอาหารชนิดพิเศษ เพื่อตอบโจทย์ทางสุขภาพของผู้คนแต่ละช่วงวัย
- โจทย์ด้านอาหารนี้ ผู้คนน่าจะต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อสัตว์มากกว่าพืชผัก การพัฒนาเนื้อสัตว์ในห้องแล็บน่าจะมีเพิ่มขึ้น (artificial meat)
เขากล่าวว่า “คุณสามารถจะทำให้บริษัทเติบโตต่อไปได้ แม้ว่าระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจไม่ได้เติบโตเช่นในอดีตแล้ว ในฐานะที่ผมเป็นนักธุรกิจ ผมมองหาโอกาสมากกว่าจะเฝ้ามองแต่ปัญหาในปัจจุบัน”
Peter เป็นชาวออสเตรียนอายุ 74 ปีแล้ว เขาเป็น CEO ของเนสท์เล่ตั้งแต่ปี 1997 จนถึงปี 2008 และยังเป็นรองประธานสภาเศรษฐกิจโลกด้วย (World Economic Forum) การเติบโตของสตาร์ทอัพที่เกิดขึ้นจำนวนมากตอนนี้ ทำให้เห็นว่ามีโอกาสมากมายอยู่ในนั้น
ในญี่ปุ่น บริษัทอาหารมีรายได้ไม่เติบโตขึ้นเลยเพราะอัตราประชากรที่แย่ลง แต่ธุรกิจด้านยากลับเติบโตขึ้น อุตสาหกรรมอาหารตอนนี้จึงมุ่งไปที่เรื่องโภชนาการ เรื่องสุขภาพซึ่งก็เติบโตไปพร้อมๆ กับด้านการแพทย์ด้วย
เขาบอกว่าหากคุณได้รับเคมีบำบัดหรือรับรังสีมากไป มันจะทำลายระบบภูมิคุ้มกันโรคได้ แต่อาหารที่ส่งเสริมสุขภาพช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันได้
ปัจจุบันนี้ เอเชียมีความต้องการกาแฟสูงมากเพราะมันทำให้ผู้ที่ดื่มกาแฟมีความรู้สึกกระฉับกระเฉงมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น มีสารต้านอนุมูลอิสระ เดิม ตลาดจีนและอินเดียเน้นดื่มชา แต่ตอนนี้กาแฟมีสัดส่วนในตลาดของทั้งสองประเทศมากขึ้น ตอนนี้เขาเห็นว่าเอเชียเป็นตลาดขนาดใหญ่มากสำหรับกาแฟ
ที่มา – Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา