โลกค้าปลีกเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และคนที่ปรับตัวตามกระแสนี้ได้ย่อมเป็นผู้ชนะ ดังนั้นลองมารับรู้มุมมองเรื่องนี้ของผู้นำในหลากหลายธุรกิจกับ Brand Inside Forum 2019: New Retail Presented by KBank กัน
ก้าวผ่าน The Infinite Game กับ KBank
KBank หรือธนาคารกสิกรไทย มีส่วนเกี่ยวข้องกับค้าปลีกไทยอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่ต่างใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารนี้ จึงไม่แปลกที่ KBank จะมองเห็นความต้องการค้าปลีกในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร และพยายามเป็นคู่คิดทางธุรกิจเพื่อพาค้าปลีกต่างๆ ก้าวผ่าน The Infinite Game ได้
“ถ้าให้นิยามอุตสาหกรรมค้าปลีกในตอนนี้คงไม่พ้นคำว่า The Infinite Game หรือเกมที่ไม่มีวันจบ เพราะมันเป็นเกมที่ไม่มีกติกาตายตัว แถมไม่รู้ว่าชัยชนะ และจุดจบอยู่ตรงไหน จึงอยากให้มองว่าค้าปลีกในปัจจุบันคือการพยายามปรับตัวเพื่ออยู่รอดในวันรุ่งขึ้น” วีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส KBank กล่าว
ทั้งนี้ The Infinite Game ของอุตสาหกรรมค้าปลีกนั้น “ลูกค้า” คือคนกำหนดเกมว่าจะเดินไปในทิศทางใด ดังนั้นผู้ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้ามากที่สุด ก็น่าจะเดินต่อไปในวันพรุ่งนี้ได้ดีกว่า ส่วนการเตรียมตัวก็มีตั้งแต่การเข้าใจธุรกิจของตัวเองมากขึ้น, การปรับตัวของผู้นำ และทีม รวมถึงการเรียนรู้คู่แข่ง และพร้อมรับความต้องการใหม่ๆ ตลอดเวลา
รู้จัก Omni-Network Channel ของ AIS
แม้จะเป็นผู้เล่นในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม แต่ AIS ก็เป็นอีกจิ๊กซอว์สำคัญในการยกระดับธุรกิจค้าปลีก เพราะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมนี้ผ่านนวัตกรรม และเทคโนโลยีได้ แต่ทาง AIS ก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเข้าสู่ยุค New Retail เพื่อเติบโตได้อย่างยั่งยืนเช่นเดียวกัน
“หลายคนอาจคุ้นเคยกับ Omni-Channel แต่ตอนนี้ AIS ก้าวผ่านคำนี้ด้วยการทำ Omni-Network Channel หรือมากกว่าการผสานช่องทางออนไลน์ และออฟฟไลน์ แต่คือการนำเครือข่ายคุณภาพมาช่วยยกระดับการเติบโตของ AIS และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ” วิศรุต เอื้ออานันท์ ผู้อำนวยการส่วนงานบริหารช่องทางออนไลน์ AIS กล่าว
สำหรับ AIS มีทั้งหน้าร้านตามจุดต่างๆ และช่องทางออนไลน์ที่พร้อมให้บริการลูกค้าในระบบ โดยช่องทางออนไลน์นั้น AIS ก็พัฒนาบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่นคีย์บอร์ดที่ลูกค้า AIS สามารถเข้าถึงข้อมูลการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังพัฒนา THAN หรือ Thailand Ads Network เป็นแพลตฟอร์มการขายรูปแบบใหม่
ประยุกต์ใช้ Big Data อย่าง The 1
The 1 หรือที่คุ้นเคยในชื่อ The 1 Card คือแพลตฟอร์ม Customer Relationship Management (CRM) ของกลุ่ม Central ที่ปัจจุบันยกระดับขึ้นมาจากแค่ใช้ในห้างสรรพสินค้า เป็นใช้กับทุกอย่างของกลุ่ม Central และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกับแพลตฟอร์มนี้ การใช้งาน Big Data เป็นคือเรื่องจำเป็น
“ค้าปลีกในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการประยุกต์ศาสตร์ และศิลป์เพื่อเอาชนะใจลูกค้า ซึ่งกลุ่ม Central มีการนำ Big Data มาใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าในหลากหลายแง่มุม และสามารถดูแลลูกค้าได้มากกว่าที่ทำมาก่อนหน้านี้” ธรรม์ จิราธิวัฒน์ ประธาน The 1 ของกลุ่ม Central กล่าว
หากให้อธิบายศาสตร์ และศิลป์ในการเข้าใจลูกค้าโดย The 1 ของกลุ่ม Central ก็จะหมายถึงการนำเครื่องมือทางเทคโนโลยีต่างๆ มารู้จักลูกค้ามากขึ้น และเมื่อรู้จักมาขึ้นแล้ว การใช้ความเป็นมนุษย์ที่ย่อมเข้าใจมนุษย์ด้วยกันมากกว่า รวมถึงเป็นสิ่งที่ค้าปลีกอย่าง Central ถนัด เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด
หลากหลายช่องทางในแบบ TV Direct
เมื่อนานมาแล้วหลายคนอาจรู้จัก TV Direct ในฐานะรายการขายของทางโทรทัศน์ หรือ TV Shopping แต่ปัจจุบัน TV Direct เป็นมากกว่านั้นแล้ว เพราะเตรียมรับมือ New Retail ด้วยการเป็น Omni Channel เต็มตัว ทั้งการขายผ่านโทรทัศน์, ขายผ่านออนไลน์ รวมถึงงานบริการในแง่มุมอื่นๆ
“การเป็น Omni-Channel คือการเข้าถึงลูกค้าได้ในหลายช่องทาง และมันคือโอกาสทางธุรกิจ แต่เราต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าเราขายอะไร จะขยายช่องทางแบบไหนถึงจะเหมาะสม และจะทำเหมือนกันหมดก็ไม่ได้ ซึ่งถ้าสำเร็จมันก็เพิ่มโอกาสการซื้อซ้ำได้ดีกว่าเดิม” ทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีวี ไดเร็ค กล่าว
อย่างไรก็ตามการเดินหน้าเรื่องนี้ก็ต้องเร่งรีบมากขึ้น เพราะธุรกิจยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศนั้นคืบคลานเข้ามาในไทยระยะหนึ่งแล้ว และด้วยเงินทุนที่แข็งแกร่ง ประกอบกับประสบการณ์จากต่างประเทศ ก็ทำให้หากไม่เปิดตัวเองด้วย Omni-Channel การจะแข่งขันกับคู่แข่งต่างชาติก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
สรุป
New Retail ในความหมายของหลายองค์กรอาจต่างกันบ้าง แต่มันก็มีจุดเชื่อมถึงกันในเรื่องเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่หากนำมาปรับใช้ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในธุรกิจค้าปลีกได้มหาศาล ดังนั้นใครที่ยังไม่เปิดใจ ก็อยากให้ลองนำสิ่งเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา