หลังเขย่าตลาดรถกลุ่ม B-Segment และ Crossover SUV ผ่านราคาที่ดึงดูดใจ ในที่สุด MG ก็เปิดตัวรถกระบะรุ่น Extender เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดที่แบรนด์ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาครองอยู่ ผ่านราคาเริ่ม 5.49 แสนบาท
โอกาสใหม่ของ MG ในตลาดนี้
ก่อนหน้านี้มีกระแสการเปิดตัวรถกระบะแบรนด์ MG มาระยะหนึ่ง เพราะในต่างประเทศเอง MG ก็มีการทำตลาดรถกระบะมาบ้างแล้ว ยิ่งตลาดรถกระบะในประเทศไทยใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย ผ่านตัวเลขยอดขายมากกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดรถยนต์หลักล้านคันในแต่ละปี การยึดครองตลาดนี้ก็ได้ก็คงดีไม่น้อย
และในที่สุดต้นเดือนส.ค. MG ก็เปิดตัวรถกระบะรุ่น Extender สักที แบ่งเป็นรุ่นย่อยทั้ง 2 ประตูมีแคปตัวเตี้ย กับตัวยกสูงขับเคลื่อนสองล้อ และรุ่น 4 ประตูยกสูงขับสอง กับขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งทั้งหมดมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ แถมราคาเริ่มต้นก็ไม่ได้แรง เพราะอยู่ที่ 5.49 แสนบาท
อย่างไรก็ตามเมื่อลองมาเจาะราคาแต่ละรุ่นจะพบว่า MG ไม่ได้เอาราคามาสู้เหมือนในอดีตที่เคยทำมากับรถยนต์รุ่นก่อนๆ มากนัก โดยเฉพาะกับรุ่นท็อปสุดสี่ประตูยกสูงขับเคลื่อนสี่ล้อราคา 1.029 ล้านบาท แพงกว่ากระบะญี่ปุ่นบางแบรนด์เสียได้ซ้ำ แม้จะให้อุปกรณ์เสริมมากมายเช่นถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง หรือไฟหน้าเลี้ยวตามพวงมาลัยก็ตาม
กระบะ MG นั้นเหนื่อยแน่นอน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าตลาดรถบะในไทยใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย ดังนั้นแบรนด์เดิมที่ครองตลาดอยู่ทั้ง Toyota, Izusu, Mitsubishi รวมถึงแบรนด์สหรัฐอเมริกาอย่าง Ford และ Chevrolet นั้นไม่ยอมให้น้องใหม่เข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาดง่ายๆ แน่นอน
ส่วนตัวเชื่อว่าจะมีการส่งแคมเปญการตลาดออกมารับน้อง ทั้งลดราคา, เพิ่มของแถม หรือปรับอุปกรณ์เสริมภายในให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องอุปกรณ์เสริมในแง่นวัตกรรมนั้น MG มี iSmart ที่ค่ายอื่นๆ ไม่มี ทำให้ผู้ซื้อที่ต้องการนวัตกรรมสั่งงานด้วยเสียง และเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้เต็มรูปแบบ ก็ต้องเลือก MG เป็นธรรมดา
ขณะเดียวกัน MG ยังมีภาพลักษณ์ไม่ค่อยดีนักในแง่บริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการ, การเบิกอะไหล่ รวมถึงวัสดุชิ้นส่วนต่างๆ ที่มักยืนระยะได้ไม่นาน ดังนั้นรถกระบะที่ส่วนใหญ่มักซื้อไปใช้งานแบบสมบุกสมบัน หรือใช้งานเพื่อการพาณิชย์ หากต้องนำไปซ่อมนานๆ ก็คงเสียโอกาสทางธุรกิจขององค์กรต่างๆ ไปไม่น้อย
ภาพลักษณ์ดุดันที่ทับไลน์บางแบรนด์
ในแง่ระบบขับเคลื่อนนั้นกระบะ MG รุ่น Extender ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ ให้พละกำลังสูงสุด 161 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,400 รอบ/นาที ส่วนตัวรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อก็มีโหมดต่างๆ เช่นระบบล็อคเฟืองท้าย เพื่อให้การลุยทำได้ดีขึ้นด้วย
ในทางกลับกันด้วยภาพลักษณ์ที่ดูดุดันของ MG รุ่น Extender ก็ทำให้ไปทับไลน์กับแบรนด์ต่างๆ ในตลาดที่วางภาพลักษณ์นี้ไว้ โดยเฉพาะกับแบรนด์สหรัฐอเมริกาที่ชูเรืองนี้ชัดเจน เนื่องจากในประเทศไทยนั้นทิศทางกระบะดุดันกำลังไปได้สวย
ทั้งนี้เรื่องการออกแบบภายในภายนอกนั้นอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลมากกว่า เพราะบางคนอาจมองว่าแบบนี้สวย อีกคนอาจมองว่ามันดูไม่ดีเลย ดังนั้นใครที่กำลังอยากซื้อรถกระบะอยู่ MG Extender ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าศึกษา เพราะด้วยนวัตกรรมภายใน และการออกแบบตามยุคสมัย ทำให้ค่าตัวเริ่มต้น 5.49 แสนบาทก็น่าสนใจ
สรุป
ความเห็นส่วนตัวกับกระบะ MG รุ่น Extender คือมันไม่ง่าย และอีกไม่นานต้องเจอค่ายคู่แข่งทั้งญี่ปุ่น และสหรัฐฯ รับน้องแน่ๆ ดังนั้นต้องวัดกึ๋นการตลาดของทีมงาน MG ว่าจะปั้นยอดขายกระบะรุ่นนี้อย่างไรบ้าง ที่สำคัญคือจะทำอย่างไรให้ภาพลักษณ์ด้านลบนั้นหายไปด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา