ผู้แทนการค้าของสหรัฐได้ออกมากล่าวว่าขอให้เวียดนามลดตัวเลขได้ดุลทางการค้าจากสหรัฐลง หลังจากที่ 5 เดือนแรกตัวเลขการได้ดุลการค้ายังโตเพิ่มมากขึ้น
โรเบิร์ต ไลท์ไธเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ ได้ขอให้เวียดนามลดการได้ดุลทางการค้ากับสหรัฐลง และขอให้เวียดนามเปิดกว้างให้สหรัฐสามารถนำสินค้าและบริการต่างๆ มาซื้อขายหรือให้บริการได้มากกว่านี้ โดยก่อนหน้านี้เวียดนามนั้นเป็นประเทศที่คาดว่าจะเป็นผู้ชนะในสงครามการค้า แต่กลายเป็นเป้าสำคัญของสหรัฐต่อจากจีนเช่นกัน
- เป้าใหม่ ทรัมป์มีโอกาสเล่นงานเวียดนามเป็นรายต่อไป หลังได้ดุลการค้าจากสหรัฐโตขึ้นถึง 40%
- เวียดนามเตรียมตรวจบริษัทต่างชาติใช้เป็นทางผ่านส่งออก เตรียมผ่อนผันทำประกันค่าเงิน
- สหรัฐเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กจากเวียดนามมากกว่า 400% หลังประเทศอื่นใช้เป็นทางผ่าน
ผู้แทนการค้าของสหรัฐยังได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เวียดนามยังมีกำแพงด้านการค้าอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อห้ามต่างๆ ทำให้สินค้าต่างๆ เช่น สินค้าเกษตร และบริการต่างๆ รวมไปถึงเรื่องของการเคารพในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าสหรัฐเริ่มมีมาตรการออกมากดดันเวียดนามเป็นระยะๆ
เวียดนามได้ดุลการค้าจากสหรัฐสูงถึง 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2018 ที่ผ่านมา เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา สำหรับตัวเลข 5 เดือนแรกในปีนี้จาก US Census Bureau เวียดนามได้ดุลการค้าจากสหรัฐไปแล้วถึง 21,600 ล้านเหรียญสหรัฐ
ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวถึงประเทศเวียดนามก่อนที่จะเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ว่า “เวียดนามได้ประโยชน์จากสหรัฐอย่างมาก มากกว่าจีนเสียด้วยซ้ำ” และได้กล่าวว่านโยบายทางการค้าของเวียดนามถือว่าแย่กว่าประเทศจีนด้วยซ้ำ
ขณะที่ผู้นำเวียดนามรับปากว่าจะทำให้การค้าในเวียดนามเสรีและยุติธรรม เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้สหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเวียดนามซ้ำรอยจีน รวมไปถึงเรื่องของการดูแลค่าเงินดอง ซึ่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเวียดนามติดรายชื่อประเทศที่มีโอกาสควบคุมค่าเงิน ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงการคลังของสหรัฐ
ที่มา – The Strait Times, Politico
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา