คุยกับเพจ “วิเคราะห์บอลจริงจัง” ทำคอนเทนต์ให้ปังโดยไม่จำเป็นต้องหยาบ

พาไปพูดคุยกับ “วิศรุต สินพงศพร” เจ้าของเพจวิเคราะห์บอลจริงจัง กับ Passion ในการทำคอนเทนต์แบบเล่าเรื่องยาวๆ ในยุคที่คนอ่านน้อยลง ไม่จำเป็นต้องหยาบต้องเกรียนก็แจ้งเกิดได้

เพจเป็นพื้นที่ปล่อยของส่วนตัว

ถ้าใครที่เป็นคอฟุตบอล หรือคอกีฬาคงจะคุ้นเคยกับเพจ “วิเคราะห์บอลจริงจัง” เป็นอย่างดี แค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่ามีความจริงจังมากแค่ไหน… คงไม่ใช่แค่มาเล่าเรื่องไม่กี่บรรทัดเหมือนเพจทั่วๆ ไป

เกริ่นคร่าวๆ ว่า วิเคราะห์บอลจริงจัง เป็นเพจที่ก่อตั้งได้ 3 ปีแล้ว มีเพียงแค่แพลตฟอร์มเดียวคือเฟซบุ๊ก ไม่มีเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดียอื่นๆ คอนเทนต์ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับฟุตบอล เป็นการหยิบเล่าเรื่องของตัวนักฟุตบอล สโมสร หรือเหตุการณ์ที่เป็นเรียลไทม์ อย่างการแข่งขัน การได้แชมป์ต่างๆ ซึ่งคอนเทนต์ส่วนใหญ่จะมีความยาวเป็นพิเศษ (มาก) มีรูปประกอบเพียงรูปเดียวเท่านั้น

Brand Inside ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “วิศรุต สินพงศพร” เจ้าของเพจวิเคราะห์บอลจริงจัง นอกจากนั้นยังมีบทบาทอื่นๆ ที่ยังอยู่ในสายการทำคอนเทนต์อยู่ จะมาแชร์เรื่องราวในการทำเพจตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำเพจให้เป็นพื้นที่สะอาดปราศจากคนเกรียนฟุตบอลได้ และแนวทางของคอนเทนต์ก็ไม่จำเป็นต้องหยาบคาย หรือตลกโปกฮา แต่ซีเรียสจริงจังก็มีคนติดตามถึง 2 แสนคนได้

วิศรุต หนุ่มวัย 35 ปี ที่มี 3 บทบาท ได้แก่

  • บทบาทแรกการทำงานประจำที่เวิร์คพอยท์ เอนเทอร์เทนเมนท์ ในส่วนของ “Workpoint News หรือข่าวเวิร์คพอยท์”
  • บทบาทที่ 2 ทำเพจวิเคราะห์บอลจริงจังเป็นของตัวเอง ซึ่งทำเองคนเดียว ไม่มีทีมงานใด
  • บทบาทที่ 3 กับการเขียนหนังสือ ตอนนี้มี 2 เล่มด้วยกัน ได้แก่ Sportlight เกมนอกสนาม ของสำนักพิมพ์แซลมอน บุ๊คส์ และ The Mixer เป็นหนังสือแปลจากต่างประเทศ

รวมไปถึงบทบาทพิเศษกับการที่จะได้เป็น “คุณพ่อ” มือใหม่อีกด้วย

เส้นทางชีวิตของวิศรุตเดินทางในสายกีฬามาโดยตลอด จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็รู้ตัวว่าอยากเป็นนักข่าวสายกีฬา เริ่มจากงานที่แรก “หนังสือพิมพ์คิกออฟ” หนังสือพิมพ์กีฬาในเครือของฐานเศรษฐกิจ แต่ด้วยตอนนั้นยังไม่เปิดตำแหน่งนักข่าว จึงเป็นตำแหน่ง “พิสูจน์อักษร” ด้วยเงินเดือน 8,000 บาท

จากนั้นก็ย้ายงานมาที่หนังสือพิมพ์ “สยามกีฬา” เริ่มได้โอกาสของการเป็นนักข่าวกีฬา แต่ด้วยหนังสือมีพื้นที่หน้าจำกัด และพื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกนักข่าวรุ่นซีเนียร์ หรือนักข่าวที่เป็นเซเลบริตี้ยึดครองไป วิศรุตจึงมองหาพื้นที่ๆ จะปล่อยของตัวเองออกมาได้เต็มที่ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเพจวิเคราะห์บอลจริงจัง

“เป็นนักข่าวสายกีฬามาตั้งแต่แรกแล้ว เรียนจบก็ทำงานที่หนังสือพิมพ์คิกออฟเป็นคนพิสูจน์อักษร และก็มาเป็นนักข่าวที่สยามกีฬา แต่ที่นี่มีหน้าจำกัด 40 หน้าต่อวัน ส่วนใหญ่พวกนักข่าวดังๆ จะยึดพื้นที่ไป อยากมีการปล่อยของตัวเองบ้าง จึงเริ่มเปิดเพจเพื่อบทความตัวเองล้วนๆ”

สร้างพื้นที่คุยเรื่องฟุตบอลแบบอารยชน

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าเพจ หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวของฟุตฟุตบอล หรือกีฬา ส่วนใหญ่จะมีแฟนบอลที่เข้ามาพูดจาเหน็บแนมกัน หรือแซวกันอย่างรุนแรง กลายเป็นแฟนบอลเกรียนๆ ซึ่งเพจทำนองนี้มีเยอะมาก

วิศรุตจึงต้องการกำหนดจุดยืนของเพจให้แตกต่าง อยากให้เป็นพื้นที่ปลดปล่อยงานเขียนจริงๆ ได้ส่งต่อแรงบันดาลใจ ถึงแม้ว่าคอนเทนต์จะยาวแต่ก็เชื่อว่ามีกลุ่มคนที่อ่าน ซึ่งก็มีคนอ่านจริงๆ

“ทุกคนต้องมี Position ของตัวเอง ต้องมีกลุ่มของตัวเอง มีพื้นที่ของตัวเอง คนพนันบอลก็มีพื้นที่ของเขา คนหยาบๆ ก็มีพื้นที่หยาบๆ ให้ปลดปล่อย เชื่อว่าคนปกติก็ต้องมีพื้นที่ปกติ อยากคุยเรื่องธรรมดาโดยไม่มีการด่ากัน ซึ่งวางเพจให้เป็นแบบนั้น”

เขียนวันละ 5 ชั่วโมง ไม่ต่ำกว่า 7 หน้า A4

ด้วยความที่ทำงานประจำด้วย แต่ที่เวิร์คพอยท์มีการทำงานแบบยืดหยุ่น ไม่ต้องตอกบัตรเข้างานแต่เช้าตรู่ วิศรุตจึงแบ่งเวลาในการทำเพจ และงานประจำได้อย่างลงตัว แถมยังมีเวลากลับมาอยู่กับครอบครัวได้ทุกวันด้วย

ที่เห็นคอนเทนต์ยาวๆ ในเพจแต่ละชิ้น ผ่านกระบวนการเขียนไม่ต่ำกว่า 7-8 หน้ากระดาษ A4 กำหนดที่ไม่เกิน 10,000 ตัวอักษร ผลงานที่เขียนน้อยที่สุดคือ 2 หน้ากระดาษ A4 วิศรุตเขียนอย่างนี้ทุกวัน ตั้งเป้าว่าต้องมีคอนเทนต์ลงวันละ 1 ชิ้น

“ไลฟ์สไตล์ในแต่ละวัน จะเขียนคอนเทนต์ลงเพจวันละ 5 ชั่วโมง ตื่นนอน 7 โมงเช้า เขียนงานถึงเที่ยง แล้วเข้างานที่เวิร์กพอยท์ตอนบ่ายโมงไปจนถึง 3 ทุ่ม สามารถแบ่งเวลาให้แฟนได้ด้วย เอาจริงๆ อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะจริงจังกับความฝันแค่ไหน ถ้าอยากผลักดันให้มันไกล ต้องเสียสละตัวเอง ต้องยอมเสียบางอย่างบ้าง เสียโอกาสไปเจอเพื่อน เพราะเรามีสิ่งที่อยากได้มากกว่า คืออยากรักษาเพจให้แข็งแกร่ง”

หลักในการเลือกคอนเทนต์ในแต่ละวันจะเริ่มจากเรื่องที่เป็น Talk of the Town ในช่วงนั้นก่อน ไม่จำกัดจะต้องเป็นฟุตบอลอย่างเดียว วงการอื่นอย่างบาสเก็ตบอล เทนนิส หรือกอล์ฟก็เขียน เพราะมีคลังความรู้เรื่องกีฬาอยู่แล้ว

ถ้าถามว่ามีช่วงที่คิดงานไม่ออกจะมีวิธีการจัดการอย่างไร? วิธีการแก้ปัญหาฉบับวิศรุตก็คือ “หยิบหนังสือ” ขึ้นมาอ่าน เขาจะมีหนังสือเยอะมาก จากนั้นก็มาต่อยอดไอเดียจากการอ่าน การดูหนัง

“ในการเขียนคอนเทนต์ต้องมีความรู้พื้นฐาน แต่ด้วยความที่เป็นนักข่าวมาตลอด อยู่กับข้อมูลมาตลอดจะไม่เคยตกข่าว ต้องมีข้อมูลติดหัวตลอดเวลา ชอบดูหนัง ดูทุกอย่างให้เป็นข้อมูลพื้นฐาน บางอันก็มีข้อมูลอยู่แล้ว บางอันก็หาตอนนั้นเลย แต่พอเขียนมาตลอดก็พอรู้ว่าจะหาข้อมูลจากไหนเพิ่มได้บ้าง บางอย่างก็เกิดจากการดูหนังแล้วมีไอเดียขึ้นมา”

ทำต่อเนื่องทุกวัน จะกลายเป็น Expert เอง

วิศรุตเล่าถึงช่วงเวลาของการเปิดเพจแรกๆ ว่า เริ่มสร้างเพจเมื่อปี 2016 แรกๆ ก็ไม่มีคนอ่าน ตอนแรกคนไลค์ 20 คน ผ่านไปหนึ่งปีมีคนไลค์ 3,000 คน เลยตั้งคำถามงานเขียนของเรามันดีจริงหรือเปล่า? เพราะยุคนี้รวดเร็ว คนอ่านน้อย ชอบอ่านอินโฟกราฟิกมากกว่า แต่วิศรุตยังชอบแนวทางของตัวเอง คิดว่ายังมีตลาดที่คนอยากอ่านยาวๆ อยู่

สิ่งที่วิศรุตทำ ก็คือ ไม่ได้ทำตามตลาดที่คนอยากอ่าน ไม่ลืมจุดยืนของตัวเองที่อยากเป็นพื้นที่ปล่อยของตัวเอง เขาบอกว่า “ต้องเชื่อก่อนว่าคอนเทนต์ดี” ต้องรักการอ่าน พอทำซ้ำไปเรื่อยๆ คนจะเห็นความตั้งใจ การสร้างเพจต้องสม่ำเสมอ ปีแรกยังไม่มีอะไรเข้าทาง ปีที่สองจะเริ่มเห็นภาพ

“การสร้างเพจใหม่เป็นเรื่องยาก แต่ต้องหาคาแรคเตอร์ให้เจอ ต้องทำอย่างนั้นซ้ำๆ 1 ปี คอนเทนต์ปังๆ ชิ้นต่อชิ้นใครก็ทำได้ แต่ทำให้ต่อเนื่องเป็นเรื่องยาก อย่างเพจขอบสนามต้องลงเสียงซ้ำๆ อยู่สองปีถึงแจ้งเกิด ต้องมีความสม่ำเสมอ 

พอเริ่มปีที่ 2 คนเริ่มเห็นงาน เริ่มแชร์มากขึ้น เพจใหญ่ๆ เริ่มเอาไปแชร์ สุดท้ายต้องทำสิ่งที่ถนัด ถึงใครไม่เชื่อก็ไม่เห็นไร แต่ต้องมีคาแรคเตอร์ ทำซ้ำๆ จะเป็นประสบการณ์ที่ดี ยังเชื่อมั่นในทฤษฎีหมื่นชั่วโมง ถ้าทำซ้ำๆ เราจะกลายเป็น Expert ในเรื่องนั้นเอง”

จากคนไลค์ 3,000 สู่รายได้เดือนละ 2 แสน และไม่รับโฆษณาพนันบอล

อย่างที่บอกว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ที่มีแฟนเพจกว่า 2 แสนคน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่อยู่ดีๆ เพจจะดังชั่วข้ามคืน ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ และความศรัทธาของตัวเองล้วนๆ

จากเพจที่คนไม่อ่านในวันนั้น เริ่มมีแฟนเพจเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ไปถึง 80,000 และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ถึง 200,000 ไลค์ สามารถสร้างรายได้ 200,000 บาทต่อเดือนได้แล้ว ซึ่งวิศรุตก็มีจุดยืนไม่การเลือกสปอนเซอร์เช่นกัน อย่างเว็บไซต์พนันบอลจะไม่รับเด็ดขาด…

“ตอนนี้เพจมลพิษมีเยอะ อยากให้คนที่อยากคุยเรื่องฟุตบอลแบบอารยชนได้เจอกัน เป็นการคัดกรองสปอนเซอร์โฆษณาที่เข้ามาก็จะเป็นแบรนด์ Hi-end ทางเพจจะไม่รับโฆษณาที่เป็นพนันบอลด้วย ถ้าคุณรับโฆษณาพนันบอลเมื่อไหร่ แบรนด์คุณจะติดลบเลยทันที เอเยนซี่จะมองเลยว่าถ้าเพจไหนมีพนันบอลจะไม่ลงโฆษณาด้วย เราต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เพจ”

เพจวิเคราะห์บอลจริงจังมีสปอนเซอร์เข้ามาครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม 2018 นั่นก็คือแบรนด์ “สิงห์” เป็นเพียงแค่ใส่โลโก้บนรูป และมีแท็กไลน์ข้างล่างคอนเทนต์เท่านั้น เพราะแค่อยากสร้างการรับรู้ นอกจากนั้นก็มีสปอนเซอร์อื่นๆ เข้ามาเรื่อยๆ อย่าง Nike, การีน่า, ฟิล์มติดรถยนต์ Lamina, เซเว่นฯ, CP, Blogdit, ไทยประกันภัย และคาราบาวแดงเป็นต้น

สุดท้ายแล้วเพจวิเคราะห์บอลจริงจัง คือตัวตนของวิศรุตคนเดียว ทำเพจคนเดียว ไม่ว่าจะเขียนคอนเทนต์ ทำรูป หาโฆษณา และตอบ Inbox วิศรุตย้ำเสมอว่า เพจนี้จะเป็นคนเดียวไปตลอด ไม่ใช่การวิเคราะห์บอล แต่คือวิศรุต ถ้าวันหนึ่งเขียนไม่ไหวก็จบ ปล่อยให้เพจตายไปนั่นเอง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา