ในยุคที่บริษัทเทคโนโลยีต้องแข่งขันกันเฟ้นหาคนไอทีมีความสามารถสูงเข้ามาทำงาน บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ในยุคนี้จึงต้องปรับตัวด้วยการเสนอเงินเดือนสูงๆ เพื่อดึงดูดคนเหล่านี้
ไม่ใช่แค่ขึ้นเงินเดือน แต่มีโอกาสเป็นผู้บริหารด้วย
NEC บริษัทเทคโนโลยีญี่ปุ่นประกาศนโยบายใหม่ในการรับพนักงานที่เป็นนักวิจัย/สายไอที โดยหากมีคุณสมบัติถึงเกณฑ์ที่กำหนด เงินเริ่มต้นต่อปีจะอยู่ที่ 10 ล้านเยน หรือประมาณ 2.84 ล้านบาท คิดเป็นเงินเดือนละ 2.36 แสนบาท แต่ไม่ใช่แค่อัพค่าตัวขึ้นเงินเดือนเท่านั้น เพราะ NEC มีโครงการในบริษัทที่เปิดโอกาสให้คนที่ทำงานสายวิจัยไอทีสามารถขึ้นไปนั่งเป็นผู้บริหาร (management) ของบริษัทด้วย
เหตุผลที่ต้องเดินเกมแบบนี้ เป็นเพราะต้องการต่อสู้กับการแย่งชิงคนไอทีเก่งๆ ที่มีความสามารถกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Facebook และ Google นอกจากนั้นวงการไอทีญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมาก็ประสบปัญหาในเรื่องนี้มานานทั้งการไหลออกนอกประเทศของวิศวกรไอทีระดับหัวกะทิ โดยส่วนใหญ่ย้ายไปทำงานในจีนและเกาหลีใต้ หรืออย่างวงการหุ่นยนต์ญี่ปุ่นที่ต้องการวิศวกรไอทีฝีมือดีต่างชาติจำนวนมากเพราะในประเทศญี่ปุ่นขาดแคลนอย่างมาก
กระแสการเสนอเงินเดือนสูงๆ เพื่อดึงดูดคนไอทีเก่งๆ ในญี่ปุ่นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่บริษัทอย่าง NEC เท่านั้น เนื่องจากบริษัทญี่ปุ่นรายอื่นๆ ก็มีทิศทางไปในแนวนี้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น
- Sony ที่ล่าสุดได้ประกาศขึ้นเงินประจำปี 20% ให้กับเด็กจบใหม่
- NTT Data เสนอเงินเดือนให้กับพนักงานไอทีตัวท็อปอยู่ที่ 20 – 30 ล้านเยนต่อปี (เดือนละ 4.74 แสนบาท ถึง 7.12 แสนบาท)
- LINE เสนอเงินเดือนให้กับวิศวกรไอที 10 – 20 ล้านเยนต่อปี (เดือนละ 2.84 แสนบาท ถึง 4.74 แสนบาท)
กระแสการเสนอเงินเดือนสูงๆ ให้กับคนไอทีของบริษัทญี่ปุ่นเป็นการปฏิบัติที่ค่อนข้างฝืนกับวัฒนธรรมการจ้างงานแบบเดิมอยู่พอสมควร เนื่องจากในอดีตบริษัทญี่ปุ่น (จริงๆ บริษัทส่วนใหญ่ในฝั่งตะวันออก) มักจะมีนโยบายในการจ้างงานตามระบบอาวุโส หมายความอยู่มานาน เงินเดือนจะสูง ดังนั้นกระแสการขึ้นเงินเดือนสูงๆ จึงถือเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ของบริษัทญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม บริษัทญี่ปุ่นรายใหญ่อย่าง Uniqlo ก็เพิ่งประกาศนโยบายใหม่ในการดึงดูดคนเก่งๆ มีความสามารถสูง โดยระบุว่าหากทำงานครบ 3 ปีจะขึ้นเงินเดือนให้สูงมาก บางราย 7 แสนบาทต่อเดือน ส่วนบางราย 2.4 แสนบาทต่อเดือน
ที่มา – Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา