กานต์ ตระกูลฮุน คือผู้บริหารคนเก่งอีกรายที่สามารถพลิกโฉมองค์กรอย่าง SCG ที่ขายเพียงวัสดุก่อสร้าง มาเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม และสามารถขยายการลงทุนออกไปได้ทั่วโลก แต่ถ้าอยากสำเร็จเหมือนผู้บริหารคนนี้ Brand Inside ได้รวบรวม 3 กลยุทธ์หลักของการดำเนินธุรกิจในสไตล์ พี่กานต์ เอาไว้ให้แล้ว
เข้าถึง และเข้าใจในทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง
ขณะนี้ กานต์ ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารแล้ว เพราะเกษียณตัวเองออกจาก บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย หรือ SCG เมื่อสิ้นปี 2558 โดยปัจจุบันรับตำแหน่งคณะกรรมการของ SCG และล่าสุดเข้ามาเป็นประธานกรรมการบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS ซึ่งเหตุที่ กานต์ ก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ เพราะความขยัน และกล้าที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จนมองว่าการเข้าถึง และเข้าใจทุกคนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทคือเรื่องสำคัญ
“Engagement คือจุดที่ผมมองว่าสำคัญ เพราะเมื่อผมเข้ามาใน SCG ตัวองค์กรยังเป็นรูปแบบทหาร หรือรับคำสั่งตั้งแต่บนลงล่าง และการทำตลาดต่างประเทศก็ยังไม่ตรงจุดนัก ดังนั้นเมื่อผมขึ้นมา ประกอบกับผู้บริหารรุ่นใหม่คนอื่นก็ขึ้นมาพร้อมกัน 8 คน เพราะรุ่นเก่าก็เกษียณกันยกชุดพร้อมผม ทำให้พร้อมใจกันปฎิวัติเรื่องนี้ และเกิดคำว่า “พี่กานต์” ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนใกล้ชิด ตั้งแต่พนักงาน, พาร์ทเนอร์ และสังคม”
Innovation ต้องใส่ใจ เพราะทุกอย่างเหมือนกัน
ขณะเดียวกัน กานต์ ต้องการให้พลิกโฉมองค์กรอย่าง SCG ให้ก้าวเท่าทันโลกภายนอก จึงตัดสินใจเน้นเรื่อง Immagination เพื่อสร้าง Innovation หรือนวัตกรรมใหม่ให้กับองค์กร เพราะถ้าจะไปแข่งเรื่องลงทุนเครื่องจักร แค่มีเงิน และกำลังคนก็ทำได้ ซึ่งแตกต่างกับนวัตกรรม เพราะถึงคนจะเยอะ แต่ไม่เก่งก็สร้างความแตกต่างไม่ได้อยู่ดี จนตอนนี้ SCG ไม่ได้ใหญ่แค่ในไทย แต่แข็งแกร่งในระดับอาเซียน
“ถ้าว่ากันตั้งแต่อดีต SCG เป็นบริษัทที่เน้นทำตลาดในประเทศ, เน้นจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และเน้นเรื่องผลกำไรเป็นหลัก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว เราก้าวไกลระดับอาเซียน และมีโปรดักต์ที่สร้างขึ้นโดยนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย พร้อมกับเน้นเรื่องประโยชน์สู่สังคมแทน เนื่องจากถ้าทำได้ตามนี้ สุดท้ายบริษัทเราก็จะเติบโตอัตโนมัติ แต่ก็นั่นแหละ การจะจูงใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเชื่อตามเรามันก็ยาก ดังนั้น Engagement ต้องดีก่อน”
บ่มเพาะคนคุณภาพพัฒนาองค์กร
สุดท้ายถ้าไม่ได้คนคุณภาพเข้ามาในองค์กร การจะขับเคลื่อนอะไรก็ยาก ที่สำคัญเดิมที SCG ไม่ได้มองเรื่องนี้เยอะ ผ่านการจ้างชาวต่างชาติเข้ามาดูแลเครื่องจักร รวมถึงแผนก R&D ก็ไม่ได้ลงทุนมาก แต่ถ้าจะสร้างองค์กรอย่างยั่งยืน การสร้างคนที่มีคุณภาพ เหมือนกับที่ SCG ปั้นผมให้เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็สำคัญ และตอนนี้ยิ่ง SCG มีคน Generation Y อยู่ครึ่งบริษัท การวางแผนสร้างคนก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น
“อย่างผมมีเวลาเตรียมตัวแค่ 3 ปีครึ่ง ก่อนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO และผมก็มองเรื่องคนเป็นอันดับแรกๆ ด้วย แม้ที่นี่จะรวมคนเก่งไว้เยอะ แต่ถ้าเราใช้ไม่เป็นก็ไม่เกิดผล เหมือนกับงานวิจัยของหลายมหาวิทยาลัยที่หลายครั้งก็ถูกเก็บไว้ในห้อง ไม่ได้นำมาใช้ ดังนั้นไม่ใช่การคัดกรองคนที่มีคุณภาพเข้ามา แต่ต้องพัฒนาเขาให้เป็นด้วย เช่นวางแผนอบรมพนักงานกันใหม่ และกดความแตกต่างทางความคิดของช่วงอายุลง”
สรุป
กว่าจะมีถึงขั้นผู้บริหารชั้นเซียนของ พี่กานต์ ไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ ก็เข้ามาทำได้ แต่ต้องศึกษาหาความรู้ และกระตุ้นตัวเองอยู่ตลอด ส่วนเรื่อง 3 กลยุทธ์นั้นก็เป็นเรื่องที่หลายองค์กรสามารถนำมาปรับใช้ได้ง่าย โดยเฉพาะเรื่องนวัตกรรม
เพราะองค์กรไทยส่วนใหญ่ยังยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ ผ่านการขาย หรือสินค้าแบบเก่า ซึ่งตอนนี้ถึงยุคไร้พรมแดนแล้ว การทำแบบนี้ก็คงแข่งขันกับประเทศอื่นไม่ได้ ดังนั้นปีหน้าหากจะพัฒนาไปไทยแลนด์ 4.0 การส่งเสริมเรื่องนวัตกรรมก็จำเป็น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา