ร้อนแรงจริงๆ ? เมื่อ Luckin Coffee คู่แข่งของ Starbucks ในจีน เข้าตลาดหุ้น Nasdaq ในวันแรกมูลค่าหุ้นก็พุ่งสูงกว่าที่คาดไว้ถึง 50%
สตาร์ทอัพกาแฟ Luckin Coffee หลัง IPO มูลค่าหุ้นพุ่งแรง
หลังจากที่ Luckin Coffee ได้ยื่นเอกสารเพื่อ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐ Nasdaq โดยจะใช้ชื่อย่อว่า “LK” หลังจากนั้นเมื่อได้เข้าตลาดหุ้นแล้ว ปรากฎว่าราคาหุ้นพุ่งสูง ได้รับการตอบรับที่ดีมาก
- ราคาหุ้นที่ Luckin Coffee คาดการณ์ไว้เมื่อนำเข้าตลาดหุ้นอยู่ที่ประมาณ 15-17 ดอลลาร์ต่อหุ้น แต่ปรากฎว่าหลังการเปิดตลาด ราคาหุ้นก็พุ่งสูงไปถึง 50% อยู่ที่ 25 ดอลลาร์ต่อหุ้น (บางช่วงพุ่งไปถึง 25.96 ดอลลาร์)
- แต่ในท้ายที่สุด ก่อนที่จะปิดตลาดในบ่ายวันศุกร์ (17 พฤษภาคม 2019) มูลค่าต่อหุ้นของ Luckin Coffee อยู่ที่หุ้นละ 20.38 ดอลลาร์ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 20%
- ส่วนจำนวนหุ้นที่ตั้งเป้าการขายไว้ที่ 30 ล้านหุ้น สรุปว่า Luckin Coffee ขายหุ้นไปทั้งหมด 33 ล้านหุ้น ทำให้มูลค่าตลาด (market value) ของหุ้น Luckin Coffee ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 6.5 พันล้านดอลลาร์
สำหรับตัวเลขการระดมทุน ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่า Luckin Coffee อาจระดมทุนได้สูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ ส่วน Bloomberg เคยคาดการณ์ไว้ว่าอาจระดมทุนได้ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ แต่ล่าสุดตัวเลขสรุปแล้วว่า Luckin Coffee ระดมทุนไปได้ทั้งหมดในการ IPO รอบนี้ที่ 561 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแน่นอนว่าจะนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนในการขยายสาขาในจีน เพราะความตั้งใจของ Luckin Coffee ในปี 2019 คือการโค่นล้ม Starbucks ในแง่จำนวนสาขา รวมถึงลงทุนเพิ่มในเรื่องเทคโนโลยี และการดำเนินงานต่างๆ ในองค์กร
Luckin Coffee ไม่ได้วางตัวเองเป็นแค่เชนร้านกาแฟ แต่คือบริษัทเทคโนโลยี
นี่คือจุดเด่นของ Luckin Coffee ที่ทำให้ได้รับความสนใจอย่างร้อนแรงในตลาดหุ้นและกลุ่มนักลงทุน
Luckin Coffee ไม่ใช่แค่เชนร้านกาแฟเท่านั้น แต่คือบริษัทเทคโนโลยี เพราะดูได้จากการไม่รับเงินสด เน้นให้ลูกค้าซื้อกาแฟผ่านทางแอพพลิเคชั่นเท่านั้น (มีเพียงบางสาขาเท่านั้นที่รับเงินสด แต่หากจ่ายด้วยเงินสด ก็จะไม่ได้รับโปรโมชั่นต่างๆ ของทางร้าน)
- ไปทำความรู้จัก Luckin Coffee ให้มากขึ้นได้ในคลิปด้านล่างนี้ (4 นาทีจบ!)
เรื่องน่ากังวลของ Luckin Coffee
แม้ว่า Luckin Coffee จะร้อนแรงขนาดไหน แต่ก็มีสิ่งที่น่ากังวล นักวิเคราะห์มองว่า รูปแบบธุรกิจของ Luckin Coffee ที่ใช้ในการสู้กับคู่แข่งด้วยการ “ลดราคาอย่างรุนแรง” อาจทำให้ธุรกิจไม่ยั่งยืน เพราะเมื่อวันใดวันหนึ่งในอนาคตเมื่อไม่ลดราคาแล้ว อาจทำให้ไม่ดึงดูดใจผู้บริโภคอีกต่อไป
และไม่ใช่เพียงแค่นักวิเคราะห์เท่านั้น Kevin Johnson ซีอีโอของ Starbucks ก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า กลยุทธ์การลดราคาอย่างหนักของ Luckin Coffee ไม่ยั่งยืน
แต่อย่างไรศึกกาแฟจีนก็ยังจะแข่งกันดุเดือดมากขึ้น โดยเฉพาะ 2 รายใหญ่ในตอนนี้คือ Starbucks และ Luckin Coffee เพราะตลาดกาแฟจีนมีการประเมินว่าในปีนี้จะมูลค่าสูงถึง 8.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.6 แสนล้านบาท) และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นอีกประมาณ 10% ต่อเนื่องไปอีกถึง 5 ปีหลังจากนี้
- ตัวเลขมหาศาลขนาดนี้ ศึกกาแฟจีนคงไม่มีใครอยากยอมแพ้อย่างแน่นอน!
ข้อมูล – CNBC, Financial Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา