McDonald’s ขอบุกตลาดเบอร์เกอร์ไม่มีเนื้อสัตว์อย่างเต็มตัว เปิดขาย Big Vegan TS ในประเทศเยอรมนีเป็นแห่งแรก ในขณะที่แบรนด์อื่นก็เตรียมลงมาบุกตลาดนี้เช่นกัน
เมื่อเทรนด์ของ Vegan หรือคนทานมังสวิรัติไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป กลายเป็นว่าแบรนด์ใหญ่ๆ เริ่มสรรหาเมนูเพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้มากขึ้น โดยเฉพาะเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ร่วมขบวนเทรนด์เบอร์เกอร์ไร้เนื้อสัตว์ หรือเบอร์เกอร์มังสวิรัติกันเพียบ
ไม่นานมานี้ได้ข่าวว่า Burger King ก็ได้ทดลองเบอร์เกอร์มังสวิรัติไปแล้วเช่นกัน พร้อมกับได้รับผลตอบรับที่ดีไม่น้อย เตรียมขยายผลในการจำน่ายทั่วสหรัฐอเมริกาภายในปีนี้
โดยที่แบรนด์คู่แข่งอย่าง McDonald’s ก็ไม่น้อยหน้า ได้ขายเบอร์เกอร์ Big Vegan TS เป็นเมนูเบอร์เกอร์มังสวิรัติ เริ่มที่ประเทศเยอรมนีแห่งแรก ซึ่งประเทศนี้ถือเป็นประเทศ 1 ใน 5 ของตลาดใหญ่ของโลก
ถ้าดูแล้วทิศทางของตลาดนี้น่าสนใจไม่น้อย แนวโน้มของผู้บริโภคนิยมโปรตีนที่ได้จากพืชมากขึ้น ประกอบกับเทรนด์ที่มองหาอาหาร หรือวิธีการกินเพื่อสุขภาพ และยังลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมได้อีก
ถ้าถามว่าความนิยมของเทรนด์ Vegan มีมากน้อยแค่ไหน ถึงขนาดที่ว่ามีคำร้องในเว็บไซต์ Change.org ได้เรียกร้องให้ McDonald’s ทำเมนูที่มีส่วนผสมจากพืช มีผู้ลงชื่อกว่า 200,000 ราย
การที่เชนร้านฟาสต์ฟู้ดต่างๆ ให้ความสนใจกับเทรนด์นี้ หาวิธีการเพิ่มโปรตีนที่ปราศจากเนื้อสัตว์มาทำเมนูเบอร์เกอร์นั้น มีการออกแบบรูปลักษณ์ และรสชาติให้เหมือนเนื้อสัตว์มากที่สุด เป็นการดึงดูดทั้งคนที่กินเนื้อสัตว์เป็นปกติ แต่สร้างทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และยังตอบโจทย์กลุ่มคนทานมังสวิรัติด้วย
นอกจาก Burger King และ McDonald’s ที่ประกาศว่ามีเมนูเบอร์เกอร์เวอร์ชั่นไม่มีเนื้อสัตว์แล้ว ยังมีผู้เล่นรายอื่นสนใจในตลาดนี้ด้วย เช่น White Castle, Qdoba, Bareburger และแบรนด์อื่นๆ ที่กำลังขยายเมนูที่ทำมาจากพืชเช่นกัน
สำหรับ McDonald’s ได้เริ่มเส้นทางเมนูทางเลือกที่ไร้เนื้อสัตว์มาตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้ว ได้เปิดตัวเมนู McVegan ที่มีส่วนผสมทำมาจากถั่วเหลือง จำหน่ายในประเทศฟินแลนด์ และสวีเดน เป็นการร่วมมือกันกับ Orkla บริษัทด้านอาหาร อีกทั้งบางประเทศก็มีเมนูผัก ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า McDonald’s จะนำเมนูเบอร์เกอร์มังสวิรัตินี้ไปจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาหรือไม่ มีการเปิดเผยว่า “ตลาดจะเป็นตัวตัดสินใจว่าอะไรที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า” นั่นแสดงว่าที่สหรัฐอเมริกายังไม่ตอบรับกับเทรนด์ Vegan มากพอที่จะทำให้ขยายเมนูนี้ไปแน่นอน เบื้องต้นยังมีการเปิดเผยแค่ว่าเมนูนี้จำหน่ายที่เยอรมนี
ตลาดสินค้าทดแทนเนื้อสัตว์เติบโตมหาศาล
ข้อมูลจาก Euromonitor International มีการประเมินว่าตลาดสินค้าทดแทนเนื้อสัตว์ หรือเนื้อสัตว์ทางเลือกในสหรัฐอเมริกามีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ภายในปี 2023 ตลาดจะมีมูลค่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ จากที่ในปี 2018 มีมูลค่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ตลาดทั่วโลกนั้น ปี 2018 มีมูลค่า 18,700 ล้านเหรียญสหรัฐ จะเพิ่มขึ้นเป็น 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023
โดยที่ผู้เล่นยักษ์ใหญ่อย่าง Nestle ก็ลงมาจับตลาดนี้เช่นกัน เมื่อเดือนที่ผ่านมาได้เปิดตัว Garden Gourmet Incredible Burger ในยุโรป เป็นเบอร์เกอร์ไร้เนื้อสัตว์ที่ทำจากถั่วเหลือง และโปรตีนจากข้าวสาลี รวมไปถึงใช้สารสกัดจากบีทรูต แครอท และพริกหยวก เพื่อสร้างรูปลักษณ์ และสัมผัสให้เหมือนเนื้อสัตว์
Nestle มีแผนที่จะเปิดตัวเบอร์เกอร์ที่ทำจากพืชในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน ภายใต้แบรนด์ Sweet Earth คาดว่าจะจำหน่ายภายในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา