ตอนนี้ทุกคนยังคงโศกเศร้ากับเหตุการณ์เสด็จสวรรณคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แต่ในฝั่งธุรกิจคงโศกเศร้านานไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องเดินต่อไป แต่จะให้ทำอย่างไรเมื่ออารมณ์การจับจ่ายผู้บริโภคไม่ปกติ ลองมาฟังข้อแนะนำจาก ฮาเซงาวะ คะซุฮิโระ ผู้ฟื้นฟูธุรกิจสำเร็จมากกว่า 2,400 แห่งกัน
รัดเข็มขัด และดูโครงสร้างเรื่องสำคัญ
ฮาเซงาวะ คะซุฮิโระ กรรมการผู้จัดการ สถาบันวิจัยพลังองค์กร (CPI) เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ญี่ปุ่นเปิดประเทศมากว่า 150 ปี ก็พบเจอกับวิกฤติต่างๆ มานับไม่ถ้วน ทั้งสงคราม, แผ่นดินไหว และเศรษฐกิจตกต่ำ จนส่งผลกระทบกับจิตใจผู้บริโภค และมีบริษัทจำนวนมากที่ล้มหายตายจากไปในช่วงนั้น แต่ถ้าอยากอยู่รอด ก็ต้องผ่านพ้นวิกฤติเหล่านั้นไปให้ได้ ผ่านการรอให้ถึงจุดจบของเหตุการณ์ทั้งหลาย
“ทุกเหตุการณ์มีจุดจบ ดังนั้นต้องวางแผนให้ดีว่าก่อนจะถึงจุดจบนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง ส่วนตัวเชื่อว่าการรัดเข็มขัดค่าใช้จ่าย และการศึกษาโครงสร้างของบริษัทตัวเอง พร้อมกับวางแผนเผื่ออนาคตไว้ด้วย เพราะเมื่อทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติการแข่งขันก็จะกลับมาเหมือนเดิม และถ้าบริษัทตามคู่แข่งที่ปรับตัวได้แล้วไม่ทัน โอกาสที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนก็จะลดลงด้วย”
อดทน – พยายาม – แก้ไข ต้องทำให้ได้
เมื่อเป็นผู้บริหารระดับสูง การเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อร่วมกันฝ่าวิกฤตินี้เป็นเรื่องจำเป้น โดยการอดทน, พยายาม และแก้ไข ถือเป็นเรื่องที่ผู้บริหารระดับสูงต้องทำให้ได้ โดยบางครั้งอาจต้องทุ่มเทมากถึง 120% ของที่ทำในปกติ แต่ยังต้องยึด 3 ข้อในการทำธุรกิจคือ ต้องวางตัวเป็นพื้นฐานเพื่อมนุษย์, สร้างผลกำไร และต้องช่วยเหลือผู้อื่นเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันยังแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ง่ายๆ อย่าง PDCA หรือ Plan, Do, Check และ Action เพื่อตรวจสอบธุรกิจในเบื้องต้น เช่นการวางแผน หรือ Plan จะต้องประกอบด้วย IAO หรือ Information, Analyze และ Objective เพราะจะวางแผนได้การรวบรวมข้อมูล แล้วนำมาวิเคราะห์ ก่อนตั้งเป้าหมายให้กับการดำเนินธุรกิจถือเป็นเรื่องจำเป็น มิฉะนั้นจะเกิด Cycle ของธุรกิจ และสร้างการเติบโตไม่ได้
1 ปีกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
“เชื่อว่าต้องใช้เวลา 1 ปี หรือเทียบเท่ากับระยะเวลาที่รัฐบาลประกาศให้ไว้ทุกข์ ดังนั้นทุกอุตสาหกรรม และธุรกิจในทุกระดับต้องใช้ขั้นตอนต่างๆ ตามที่บอกไว้ข้างต้น ถ้าผมเป็นผู้บริหารธุรกิจในประเทศไทยตอนนี้ ก็คงกระตือรือร้น, มุ่งมั่น และร้อนแรง เพื่อแสดงให้ผู้ใต้บังคับบัญชารู้ว่าธุรกิจยังไปได้ พร้อมกับชักจูงให้พวกเขาเดินเรา และช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปด้วยกัน แต่อย่าลืมวิเคราะห์ธุรกิจของตนเอง ถ้าไม่รู้ว่าป่วยตรงไหน ก็จ่ายยาไม่ได้”
สำหรับ ฮาเซงาวะ คะซุฮิโระ ปัจจุบันอายุ 77 ปี มีประสบการณ์ทำธุรกิจมา 50 ปี และมีความเชี่ยวชาญในการฟื้นฟูธุรกิจ เช่นการกอบกู้บริษัทนิคอน – เอสซีลอร์ ให้พ้นภาวะขาดทุนภายใน 1 ปี ซึ่งในวันที่ 9 พ.ย. คุณลุงนักฟื้นฟูธุรกิจรายนี้จะมาบรรยายที่ประเทศไทยภายในงาน “สู้สุดฤทธิ์ พลิกธุรกิจ ให้กลับมาผงาด” แต่ถ้ายังไม่ว่างสามารถไปซื้อหนังสือของคุณลุงท่านนี้ได้ตามร้านหนังสือทั่วไป
สรุป
ถึงตลาดจะซบเซาแค่ไหน แต่ธุรกิจก็ยังต้องอยู่ ถ้าพับตามตลาดไป ก็คงหายไปอย่างช้าๆ ดังนั้นการใช้ภาวะผู้นำเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจจึงจำเป็นในชั่วโมงนี้ ยิ่งระยะเวลาซบเซายังไม่รู้ว่าจะถึงเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าทุกคนคงผ่านวิกฤตินี้ได้ด้วยกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา