เมื่อผลการเลือกตั้งของไทยจากวันที่ 24 มี.ค. 2562 ถึงตอนนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะมีปัญหาทั้งการนับคะแนน คะแนนเปลี่ยนไปมา บางหน่วยคะแนนเกินผู้ใช้สิทธิ์ในเขตนั้นๆ จำนวนบัตรเสียมากกว่าปกติ แถมจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกลับน้อยกว่าที่ประชาชนคิดไว้
ล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังสรุปสูตรคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไม่ได้ จนต้องทำเรื่องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญช่วยตีความหาทางแก้ไข
เมื่อไทยมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแค่ 51 ล้านคนยังมีปัญหาขนาดนี้ แล้วการเลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างอินเดีย ที่รอบนี้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งถึง 900 ล้านคน จะต่างกับไทยอย่างไร?
ประเทศอินเดียกำลังจัดการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยครั้งใหญ่ที่สุดในโลกเพราะมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งถึง 900 ล้านคน (อายุ 18 ขึ้นไป) จากประชากรอินเดียทั้งหมด 1,340 ล้านคน โดยการเลือกตั้งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. – 23 พ.ค. 2562 (เลือกตั้งวันสุดท้าย 19 พ.ค. และนับคะแนนออกคาดว่าออกผลสรุปวันที่ 23 พ.ค. 2562)
งบประมาณการเลือกตั้งอินเดียแตะ 200,000 ล้านบาท
ข้อมูลจาก The New Delhi-based Centre for Media Studies ระบุว่างบการเลือกตั้งอินเดียครั้งนี้ใช้งบประมาณ 500,000 ล้านรูปี (ประมาณ 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 220,000 ล้านบาท) เทียบกับการเลือกตั้งของสหรัฐในปี 2016 อยู่ที่ 6,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่างบการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่อินเดียครั้งนี้อาจจะเป็นการเลือกตั้งที่แพงที่สุดในโลก
ข้อแตกต่างระหว่างการเลือกตั้งอินเดียกับไทย เช่น ที่อินเดียใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ (EVM และ VVPAT) หลักล้านเครื่องที่ส่งไปในทุกหน่วยเลือกตั้ง โดยเครื่อง EVM นี้จะไม่สามารถเชื่อมต่อภายนอกได้ เช่น อินเตอร์เน็ต Wifi USB Bluetooth ฯลฯ
วิธีการเลือกตั้งและการนับคะแนนที่อินเดีย
การเลือกตั้งของอินเดียตั้งแต่ปี 2004 เริ่มใช้เครื่อง EVM ในการลงคะแนนแล้ว ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือ ลดปัญหาบัตรปลอม ไม่มีบัตรเสีย และประหยัดเวลาการนับคะแนนจาก 30-40 วัน เหลือ 3-4 ชั่วโมง
วิธีการเลือกตั้งในอินเดีย ผู้มีสิทธิ์ต้องระบุตัวตนกับเจ้าหน้าที่ โดยแสดงตัวตนพร้อมเอกสารทางการออกให้ เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ ฯลฯ เหมือนกับประเทศไทย เจ้าหน้าที่จะแต้มหมึกลบไม่ได้ที่นิ้วชิ้ และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต้องเซ็นชื่อในสมุดเพื่อแสดงว่ามาเลือกตั้งแล้ว จากนั้นจะได้รับคูปองสำหรับเข้าคูหาลงคะแนน
เมื่อเดินเข้าคูหาจะมีเครื่องลงคะแนนที่ชื่อ EVM (มีภาษาเบรลล์สำหรับคนพิการทางสายตาอยู่หน้าเครื่อง) ซึ่งรายชื่อผู้ลงสมัครเลือกตั้งทั้งหมด เมื่อผู้มีสิทธิ์กดปุ่มสีน้ำเงินเลือกผู้สมัครส.ส. และกดปุ่มยืนยัน โดยเครื่อง VVPAT ซึ่งจะปริ้นท์คะแนนที่กดเลือกไว้ให้ดู และนำไปเก็บไว้ในกล่องลงคะแนนโดยไม่ผ่านมือเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้ง
ดังนั้นหน่วยเลือกตั้งของอินเดียสามารถคลิกที่เครื่อง EVM และสรุปรวมคะแนนได้เลย แต่ขั้นแรกจะให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยนับคะแนนเลือกตั้งจากแผ่นกระดาษซึ่งจะเปิดให้ผู้สมัครลงเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมืองเข้าร่วมเป็นพยานในการนับคะแนนเพื่อรักษาสิทธิของตนเอง หลังจากนั้นจะสรุปผลการนับคะแนนจากเครื่อง EVM อีกทั้งยังมีกฎให้นับคะแนนมากกว่า 1 สถานที่เพื่อตรวจสอบผลคะแนนที่ออกมา
ประเทศไหนในโลกที่ใช้เครื่อง EVM ในการลงคะแนนเลือกตั้ง
1. Belgium 2. Estonia
3. Venezuela 4. United Arab Emirates
5. Jordan 6. Maldives
7. Namibia 8. Egypt
9. Bhutan 10. Nepal
นอกจากนี้มีบางรัฐในสหรัฐอเมริกา ที่ลงคะแนนเลือกตั้งโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์และไม่ใช้กระดาษ ได้แก่ Delaware, Georgia, Louisiana, New Jersey และ South Carolina
สรุป
การเลือกตั้งนอกจากเป็นการใช้สิทธิของประชาชนแต่ละคนยังแสดงถึงความสามารถและความโปร่งใสของกกต.ในประเทศนั้นๆ ด้วย ซึ่งการเลือกตั้งของอินเดีย และไทยในปีนี้ยังเป็นที่จับตามองของทั่วโลก
ที่มา – BBC, Election Commission of India, ABC News, Economictimes, Jagranjosh
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา