LEO ผู้นำตลาดเบียร์ในประเทศไทย เดินเกมแพ็คเกจจิ้งสุดล้ำ เปลี่ยนขวดสีชาสุดคลาสสิคเป็นขวดอะลูมีเนียมสุดพรีเมี่ยม Limited Edition จำนวน 3 สี ได้แก่ สีแดง สีดำ และสีเงิน เพียงแค่ 600,000 ขวดเท่านั้น ขึ้นแท่น Rare Item ของคอเบียร์แน่นอน
ครั้งแรกที่เปลี่ยนขวดเบียร์เป็นขวดอะลูมีเนียม
ปีนี้ได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการเบียร์มากมายตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว ซึ่งปกติแล้วคนไทยจะคุ้นเคยกับเบียร์ในบรรจุภัณฑ์ประเภทขวดแก้ว และกระป๋องอะลูมีเนียมเสียส่วนใหญ่ แต่ในปีนี้ LEO ที่ถือว่าเป็นผู้นำตลาด เบียร์จากค่าย “สิงห์ คอร์เปเรชั่น” ได้เปิดนวัตกรรมใหม่ “ขวดอะลูมีเนียม” ถือเป็นครั้งแรกของวงการเบียร์ในประเทศไทย เพราะยังไม่เคยมีผู้เล่นรายไหนใช้ขวดอะลูมีเนียมมาก่อน
ถ้ามองไปถึงโจทย์ใหญ่ในการออกนวัตกรรมนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องการสร้างสีสันในตลาด และการเป็นผู้นำเทรนด์ในตลาด เพราะเบียร์ขวดอะลูมีเนียมอาจจะเคยเห็นในต่างประเทศมาบ้างแล้ว แต่ในเมืองไทยต้องบอกว่าเป็นผู้เล่นรายแรกจริงๆ
วิชัย เอี่ยมแสงจันทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจเบียร์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้เล่าให้ฟังว่า
“ลองนับถอยหลังไปช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเบียร์ของบุญรอดฯ มีการนำเสนอความแปลกใหม่ให้ตลาดเสมอ อีกทั้งยังมีแบรนด์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่าง U Beer, Snowy Weizen และ Kopper ส่วนแบรนด์ที่มีอยู่ทั้ง LEO และสิงห์ต่างมองหาวิธีการสร้างความตื่นเต้นให้ตลาด ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด การออก LEO ขวดอะลูมีเนียมจึงเป็นการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ตลาด”
วิชัยเสริมว่ากว่าจะได้ขวดอะลูมีเนียมได้ใช้เวลาพัฒนาระยะหนึ่ง ตั้งแต่การดีไซน์ ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านควบคุม แต่ก็ได้เจอกับ Supplier อย่างบริษัท อะลูคอน จำกัด ที่เป็นผู้ผลิตขวดรายใหญ่ในไทย เมื่อคุยกันลงตัวเรื่องกระบวนการผลิต เทคโนโลยี กำลังการผลิต มาตรฐานการผลิต จึงเดินหน้าโปรเจ็คนี้เต็มที่
แพ็คเกจจิ้งยังคงเป็นอาวุธลับในการทำการตลาด
อย่างที่ทราบกันว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ตลาดเบียร์ในบ้านเรามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก มีกฎหมายควบคุมเรื่องสื่อโฆษณาทำให้ทำการตลาดยากขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน มีทางเลือกเยอะมากขึ้น จึงต้องมีอะไรใหม่ๆ มาดึงดูดใจผู้บริโภค
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “แพ็คเกจจิ้ง” ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญในด้านการตลาดของทุกธุรกิจ การปรับเปลี่ยนแพ็คเกจจิ้ง การมีแพ็คเกจจิ้งใหม่ หรือเป็นแบบ Limited Edition ย่อมสร้างความตื่นเต้นได้ไม่น้อย
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดเบียร์ถูกจำกัดด้วยอะไรหลายอย่าง เพราะฉะนั้นแพ็คเกจจิ้งจึงเป็นอาวุธสำคัญอย่างหนึ่งที่จะสื่อสารกับผู้บริโภค ทุกธุรกิจในกลุ่มบุญรอดฯ มีแนวคิดเรื่องพัฒนาหานวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงมองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา”
ที่ผ่านมา LEO เดินกลยุทธ์การตลาด สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ได้มีการออกแพ็คเกจจิ้งเป็นคอลเล็กชั่นตามเทศกาลสำคัญๆ ต่างๆ ของไทย ไม่ว่าจะเป็น สงกรานต์, ฟุตบอลโลก ฯลฯ การออกขวดอะลูมีเนียมในครั้งนี้จึงเป็นการสร้างกระแสอีกครั้งหนึ่ง
ผลิตแค่ 600,000 ขวดเท่านั้น ขึ้นแท่น Rare Item ในอนาคต
ต้องบอกว่า LEO ขวดอะลูมีเนียมนี้เป็น Limited Edition ที่ผลิตเพียงแค่ 600,000 ขวดเท่านั้น มี 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สีแดง สีดำ และสีเงิน จำหน่ายที่ร้าน 7-11 เริ่มจำหน่ายวันแรกวันที่ 4 เมษายน 2562
วิชัยบอกว่า 600,000 ขวดนี้ ถ้าหมดแล้วก็หมดเลย ไม่มีผลิตเพิ่ม เพราะต้องการให้เป็นสินค้าหายาก หรือ Rare Item ที่คนต้องตามหาเพื่อสะสม เพราะจากที่ผ่านมาได้เรียนรู้จากการออกแพ็คเกจจิ้งใหม่ๆ บางทีคาดการณ์ว่าจะหมดใน 2 เดือน แต่ถึงเวลาจริง 2 สัปดาห์ก็หมดแล้ว
นอกจากขวดอะลูมีเนียมที่จะมาสร้างกระแส สร้างสีสันให้ตลาดเบียร์ได้แล้ว ยังหวังที่จะเป็นสิ่งที่สามารถเอ็นเกจกับผู้บริโภคได้ ตั้งเป้าว่า LEO จะต้องเอ็นเกจให้ครบทุกกลุ่ม ต้องเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทุกกลุ่มให้ได้ ทั้งคนรุ่นใหม่ในเมือง คนทำงานทั่วไป และคนต่างจังหวัด
สรุป
ตลาดเบียร์ในปีนี้ดูท่าจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะมีนวัตกรรมเรื่องตัวสินค้าแล้ว ยังมีเรื่องแพ็คเกจจิ้งที่เข้ามาสร้างสีสันได้อีก การที่ LEO ออกแพ็คเกจจิ้งขวดอะลูมีเนียมมานั้น เชื่อว่าจะสร้างแรงกระเพื่อมให้ตลาดได้ดีทีเดียว เพราะเป็นการเดินเกมด้วย Emotional กระตุ้นให้คนอยากซื้อมาเก็บสะสมได้ แถมยังขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้อีกด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา