รัฐบาลจีนเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจจีนครั้งใหม่ด้วยการลด VAT ให้กับอุตสาหกรรมการผลิต หลังจากนายกรัฐมนตรีจีนได้ปรับเป้า GDP ของจีนปีนี้โตแค่ 6-6.5% ต่ำสุดในรอบหลายปี
จีนเตรียมที่จะลดภาษีเพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจจีน หลังจากนายกรัฐมนตรี หลี่ เคอเฉียง ได้ส่งรายงานต่อสภาประชาชนแห่งชาติจีน หรือ NPC ได้ประมาณอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ในปีนี้ไว้ที่ 6% ถึง 6.5% ซึ่งการประมาณตัวเลข GDP กรอบล่างของเศรษฐกิจจีนนี้ถือว่าต่ำที่สุดในรอบหลายปี
- ยอดการจับจ่ายในช่วงตรุษจีนโตต่ำสุดในช่วง 8 ปี สร้างความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัว
- GDP จีนปี 2018 โต 6.6% ต่ำสุดในรอบ 28 ปี ผลกระทบจากสงครามการค้า
- World Bank และ ADB ปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก ผลพวงจากสงครามการค้า
สำหรับปีนี้เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแรงกดดันสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงหนี้ของจีนที่กำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยข้อมูลล่าสุดจาก Bloomberg นั้นจีนมีหนี้ต่อ GDP อยู่ที่ประมาณ 265% ทำให้จีนต้องเร่งลดความเสี่ยงจากเรื่องหนี้ นอกจากนี้เป้าหมายของรัฐบาลจีนคือลดความยากจนของประชาชนอีกด้วย
ถ้าหากจีนต้องการที่จะเพิ่มขนาดของเศรษฐกิจจีน 2 เท่าตั้งแต่ปี 2010 จนถึงปี 2020 จีนจะต้องมีการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ 6.2% ซึ่งถ้าหากรัฐบาลจีนกระตุ้นเศรษฐกิจมากไปก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงของเศรษฐกิจ เช่น หนี้ที่สูงขึ้น แต่ถ้าหากจีนไม่กระตุ้นเศรษฐกิจเลยก็เป็นความเสี่ยงต่อประชาชนจีนเอง เช่น การว่างงานสูงขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงทำให้รัฐบาลจีนต้องจัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ เช่น การลดภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT สำหรับธุรกิจก่อสร้างและขนส่งเหลือ 9% จากเดิม 10% สำหรับภาคการผลิต VAT จะเหลือเพียงแค่ 13% จาก 16%
นายกรัฐมนตรีจีน ยังได้กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจจีนในปีนี้พบกับความท้าทายในหลายเรื่อง เช่น ความเสี่ยงเศรษฐกิจ รวมไปถึงสภาวะแวดล้อมที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และเรื่องเหล่านี้กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้จีนต้องเตรียมตัวกับสภาวะยากลำบากที่จะเกิดขึ้น การลดภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมต่างๆ จะทำให้มีเม็ดเงินเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจมากถึง 2 ล้านล้านหยวนในปีนี้
ไม่เพียงแค่การลดภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น แต่จีนยังเตรียมที่จัดทำงบประมาณขาดดุลในปี้นี้เพิ่มอีกด้วย ซึ่งคาดว่าในปีนี้จีนจะมีงบประมาณขาดดุล -2.8% ของ GDP จีน มากกว่าในปี 2018 ที่จีนทำงบประมาณขาดดุล -2.6% ของ GDP
ที่มา – Channel News Asia, Arab News, Global Times, Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา