เปิดผลสำรวจเรื่องออฟฟิศของคนรุ่นใหม่ในเมืองกรุงปี 2019 พบว่าที่ตั้งต้องดีมาอันดับหนึ่ง สิ่งอำนวยความสะดวกต้องพร้อม เทคโนโลยีต้องมี สุขภาวะต้องเยี่ยม
4 เทรนด์ออฟฟิศของคนรุ่นใหม่
ผลสำรวจล่าสุดโดยนีลเส็น ประเทศไทย ร่วมกับโครงการ The PARQ ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด และบริหารงานโดย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) เผยเทรนด์ความต้องการที่กำลังมาแรงของมนุษย์เงินเดือนในกรุงเทพฯ
ชี้ว่าออฟฟิศซึ่งมีทำเลที่ตั้งสะดวกสบายและเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนได้สะดวก คือ ปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะพิจารณาเมื่อเปลี่ยนงาน นอกจากนี้ กระแสความต้องการด้านสุขภาวะที่ดีการมีบริการที่อำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบครัน และเทคโนโลยีล้ำสมัยภายในอาคารสำนักงานก็สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของพนักงานออฟฟิศ ซึ่งบ่งบอกถึงเทรนด์ใหม่ที่จะพลิกโฉมรูปแบบอาคารสำนักงานชั้นนำของกรุงเทพฯ ในอนาคต
ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา จากกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงในกรุงเทพฯ รวม 400คน อายุระหว่าง 25-45ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนทำงานทั้งในบริษัทของไทย และนานาชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับทัศนคติต่อสถานที่ทำงานในปัจจุบัน และปัจจัยด้านต่างๆ ของสถานที่ทำงานในมุมมองของคนวัยทำงานในกรุงเทพฯ
เพื่อทำความเข้าใจว่าอาคารสำนักงาน หรือสถานที่ทำงานมีบทบาทและความสำคัญอย่างไรต่อการตัดสินใจเลือกสถานที่ทำงานสร้างความพึงพอใจ และส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งผลสำรวจนี้จะช่วยให้บริษัทต่างๆ และเหล่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์วางแผนจัดการพื้นที่อาคารสำนักงานในอนาคตได้อย่างเหมาะสม
-
“ตำแหน่งที่ตั้ง” ของสถานที่ทำงานมีความสำคัญสูงสุด
92% ของผู้ร่วมตอบแบบสำรวจมองว่าสถานที่ตั้งยังเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการทำงาน และสำหรับการเลือกสถานที่ทำงานในอนาคตด้วยเช่นกัน ระยะเวลาเฉลี่ยที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการเดินทางไป-กลับที่ทำงานในปัจจุบันคือ 60 นาที และใช้รถประเภทต่างๆ เดินทางถึง 2-3ต่อ โดยมีถึง 91% ระบุว่าระยะทางของสถานที่ทำงานกับจุดบริการขนส่งมวลชนนั้น สำคัญมากต่อการพิจารณาที่ทำงานใหม่ รวมถึงส่วนเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนด้วยเช่นกัน 69%
ผลสำรวจยังพบว่าเทรนด์ของหนุ่มสาวชาวออฟฟิศรุ่นใหม่ยกให้ความสะดวกสบายในการเดินทาง และที่ทำงานที่อยู่ใกล้ระบบขนส่งมวลชนเป็นปัจจัยสำคัญเหนือกว่าด้านอื่นๆ โดยมีถึง 72% ของผู้ร่วมตอบแบบสำรวจระบุว่าต้องการเดินในระยะทางที่ต่ำกว่า 500 เมตร ระหว่างที่ทำงานกับจุดบริการขนส่งมวลชน
และ,13% ของกลุ่มคนทำงานวัย 25-30 ปี ปฏิเสธที่จะไม่เดินไประบบขนส่งมวลชนถ้าต้องเดินมากกว่า 100 เมตร และพบว่า 31% ของคนกลุ่มนี้ต้องการใช้เวลาเดินทางไปทำงานต่ำกว่า 15 นาทีต่อวัน โดย 85% ของผู้ตอบแบบสำรวจใช้ BTS และ MRT เป็นวิธีการเดินทางหลัก ส่วนกลุ่มระดับผู้บริหารวัย 41-45 ปีนั้นใช้เวลาเดินทางโดยรวมนานที่สุด โดย36.7% ใช้เวลามากกว่า 90 นาทีในการเดินทางมาทำงาน
ทั้งนี้นอกจากเรื่องสถานที่ตั้งของที่ทำงาน ผลสำรวจยังสะท้อนให้เห็นว่าปัจจุบันมนุษย์เงินเดือนต้องการให้ออฟฟิศเป็นมากกว่าแค่สถานที่ทำงาน โดยระบุว่าปัจจัยสำคัญอีก 3 ประการที่จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการทำงานนั้น คือ
สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ ภายในอาคารสำนักงาน เช่น ร้านค้า ยิม ร้านอาหาร บริการรับส่งไปรษณีย์ มากถึง 43% เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยและสวัสดิภาพที่ดี 42% และมีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่สาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจระหว่างการทำงาน 36%
-
สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการต่างๆ
ผลสำรวจพบว่าหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกสถานที่ทำงานคือสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ ภายในอาคารสำนักงานโดยชาวออฟฟิศส่วนใหญ่โหวตให้ฟู้ดคอร์ท ร้านสะดวกซื้อ ยิมและร้านอาหารที่แฮงก์เอาต์หลังเลิกงาน เป็น
สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการภายในอาคารสำนักงาน 4 อันดับแรกที่ตอบโจทย์ชีวิตการทำงานมากที่สุด
วิถีการดูแลสุขภาพทั้งด้านการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายก็สามารถปฏิวัติได้จากชีวิตการทำงานออฟฟิศเช่นกัน เพราะ 92% ของผู้ร่วมตอบแบบสำรวจระบุว่าการมีตัวเลือกอาหารเพื่อสุขภาพในสถานที่ทำงานจะช่วยให้พวกเขาเลือกกินอาหารที่ดีขึ้น และดูแลสุขภาพมากขึ้นได้ นอกจากนี้ 93% ก็เห็นว่าถ้ามียิมในอาคาร หรือมีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆ ก็จะทำให้หันมาออกกำลังกายมากขึ้นด้วย
- ออฟฟิศยุคใหม่ต้องมี “สมาร์ตเทคโนโลยี”
สมาร์ตเทคโนโลยีคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทุกกลุ่มอายุเห็นพ้องต้องกันว่าทุกอาคารสำนักงานจำเป็นต้องมี โดย 62% ของผู้ร่วมตอบแบบสำรวจระบุว่าเทคโนโลยีการจัดการด้านการรักษาความปลอดภัย คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พวกเขาต้องการ
รองลงมาคือระบบการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน 50% แสดงให้เห็นถึงกระแสของชาวออฟฟิศที่มีต่ออาคารรักษ์สิ่งแวดล้อม และระบบที่จอดรถพร้อมเทคโนโลยีอันชาญฉลาด 47% ก็ติดอยู่ในสามอันดับแรกนี้เช่นกัน
ที่น่าสนใจคือเมื่อพิจารณาตามเพศชายหญิง พบว่าเพศหญิงมากถึง 46% ต้องการระบบห้องน้ำอัตโนมัติมากกว่าผู้ชาย เพราะคำนึงถึงเรื่องความสะอาดและต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ในขณะที่กลุ่มผู้ชายนั้นให้ความสำคัญกับสถานีอัดประจุสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากกว่าเพศหญิงซึ่งมีเพียง 9%
เทรนด์ดิจิทัลนั้นยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง เพราะหนุ่มสาวชาวออฟฟิศรุ่นใหม่จำนวน 46% อยากให้มีแอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์ที่ให้บริการแก่ผู้เช่าอาคาร (สำหรับการสื่อสารระหว่างอาคารสำนักงานและส่วนของบริการต่างๆในออฟฟิศ) ซึ่งมีจำนวนมากกว่ากลุ่มคนวัยทำงานที่สูงวัยกว่า ถึง 2 เท่า
นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดว่ากระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนนั้นมาแรงขึ้นเพราะผู้ตอบแบบสำรวจถึง 40% เทใจให้กับตึกสำนักงานที่มีระบบการจัดการน้ำและการคัดแยกขยะที่ดี
- สุขภาวะที่ดี คือ หัวใจหลักที่จะสร้างความสุข และประสิทธิภาพในการทำงาน
ไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นสอดรับกับผลสำรวจนี้เป็นอย่างดี โดยผู้ร่วมตอบแบบสำรวจระบุว่า 3 ปัจจัยหลักที่มีผลต่อความพึงพอใจและส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมากคือ อากาศภายในอาคารที่ปลอดมลพิษ 64%
รองลงมาคือ การเข้าถึงแสงธรรมชาติและสามารถมองเห็นวิวภายนอกอาคารได้ 45% และการมีพื้นที่สีเขียวในอาคารสำนักงาน 40% นอกจากนี้ ความต้องการมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ เช่น ยิมบริการเสริมความงามหรือสปาในอาคาร 39% ก็สะท้อนถึงเทรนด์สุขภาพที่อยู่ในกระแสความสนใจของคนยุคนี้ได้เป็นอย่างดี
ในทางกลับกันสภาพอาคารสำนักงานที่กลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจไม่พึงพอใจคือ สภาพออฟฟิศที่คับแคบพื้นที่ทำงาน
ไม่สะดวกสบายซึ่งมาเป็นอันดับหนึ่ง 41% ตามมาด้วยคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ย่ำแย่ 40%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา