ตอนนี้วิกฤติฝุ่น PM 2.5 ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทย เพราะหลายแห่งก็เจอปัญหานี้ เช่นในกรุงโซลของเกาหลีใต้ก็เคยมีค่าฝุ่น 122 ไมโครกรัม/ตร.ม. จนยอดขายเครื่องฟอกอากาศ และหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ยอดขายพุ่ง-ค้าปลีกแห่ส่งโปรฯ รับดีมานด์
เกาหลีใต้อยู่ระหว่างเผชิญกับวิกฤติฝุ่นในประเทศจีนที่พัดเข้ามาตั้งแต่ตอนเหนือของประเทศจนลงไปที่คาบสมุทรเกาหลี ซึ่งปกติแล้วตัวฝุ่นดังกล่าวจะพัดฝุ่นสีเหลืองเข้ามาจนสร้างปัญหาให้กับประเทศในช่วงปลายเดือนก.พ. จนถึงสิ้นเดือนมี.ค. แต่ด้วยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนกำหนด ทำให้ตลาดสินค้าเกี่ยวกับการป้องกันฝุ่นได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
Emart หนึ่งในค้าปลีกชั้นนำของเกาหลีใต้สำรวจพบว่า ยอดขายหน้ากากอนามัยระหว่างวันที่ 10-16 ม.ค. ภายในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 458% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนเครื่องฟอกอากาศนั้นเพิ่มขึ้น 414% ซึ่งการเพิ่มขึ้นขนาดนี้ทำให้ยอดขายนั้นเทียบเท่ากับ 95% ของยอดขายทั้งหมดในเดือนมี.ค. 2561
ขณะเดียวกันสินค้าที่เกี่ยวกับการทำความสะอาดเสื้อผ้าก็จำหน่ายได้ดีเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นตู้อบตระกูล Styler ของ LG ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 186% และยอดขายเครื่องอบผ้าที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 67 เพราะการนำผ้าไปตากข้างนอกนั้นนอกจากกระทบกับผู้ตากผ้าแล้ว ตัวผ้ายังเก็บฝุ่นละอองที่ไม่ดีกลับมาด้วย
อย่างไรก็ตามเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค และสร้างโอกาสทางธุรกิจ ค้าปลีกดั้งเดิม และออนไลน์ก็ต่างลดราคาสินค้าเครื่องฟอกอากาศ และหน้ากากอนามัย รวมถึงทางหน่วยงานรัฐของเกาหลีใต้ก็เร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเต็มที่ โดยต้องการให้ค่าฝุ่นลดลงเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สรุป
วิกฤติฝุ่นนั้นมีปัญหาในหลายพื้นที่ จึงไม่แปลกที่สินค้าที่ใช้ป้องกันทั้งเครื่องฟอกอากาศ และหน้ากากอนามัยจะขาดตลาด ส่วนในประเทศนั้น ฝุ่น PM 2.5 จะหายเร็วแค่ไหนคงไม่มีใครกล้าคาด เพราะมากกว่ากรุงโซล และยังสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก กว่าจะกลับมาดี 16-35 ไมโครกรัม/ตร.ม. ที่อยู่ในขั้นปกตินั้นไม่ง่ายเลย
อ้างอิง // Retail News
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา