ห้างสรรพสินค้า ตั้งฮั่วเส็ง หรือ T-Square ถ้าเป็นเด็กรุ่นใหม่ และไม่ได้อยู่ในพื้นที่ธนบุรี หรือ บางลำพู อาจจะเพียงแค่เคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยไปสัมผัสความดั้งเดิมของห้างฯ ที่มีอายุ 55 ปี แต่ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเอง และมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง วิโรจน์ จุนประทีปทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง จำกัด ได้มาบอกเล่าเรื่องราวให้ฟังได้อย่างน่าสนใจ
ลดราคาไม่ช่วยอะไร ต้องสร้างเอกลักษณ์ของตัวเอง
โปรโมชั่นหลักของห้างสรรพสินค้าที่ใช้ในการดึงดูดคนคือ การลดราคา ซึ่งทุกห้างทำเหมือนกันหมด ดังนั้นสำหรับตั้งฮั่วเส็ง การลดราคาจึงไม่ช่วยอะไรมากนัก และสำหรับห้างเล็กๆ ก็คงไม่สามารถจัดโปรโมชั่นเทียบกับห้างใหญ่ๆ ที่มีจำนวนสาขามากๆ ได้ ดังนั้นจุดเด่นคือ การมีเอกลักษณ์ของตัวเองคือสิ่งสำคัญ
ตั้งฮั่วเส็ง มีจุดเด่นคือ เป็นแหล่งจำหน่ายงานฝีมือซึ่งรวบรวมมาจากจังหวัดใกล้เคียง เป็นทั้งงานอดิเรกให้กับผู้ที่สนใจ สามารถมาเลือกซื้อไปทำเอง หรือจะซื้อแบบสำเร็จก็ได้ เกิดเป็น Hobby Center สามารถสร้างกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเหมือนๆ กันเป็นลูกค้าขาประจำของห้าง
“ล่าสุด ตั้งฮั่วเส็ง จัดงาน ร้อยเรียง เคียงศิลป์ ครั้งที่ 23 เป็นการนำงานฝีมืออายุกว่า 700 ปี เทคนิคงานปักสอดของยุควินเทจ ชื่อ Huck Embroidery สุดยอดคลาสสิคจากสวีเดน อายุกว่าร้อยปี และอีกหลายสิบงานจากหลายประเทศ มานำเสนอ เพื่อคนชอบงานฝีมือโดยเฉพาะ หาได้ที่ ตั้งฮั่วเส็ง ที่เดียว”
นอกจากนี้การเป็น Super Market ที่มีของสด และอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ลูกค้าระแวกใกล้เคียงเลือกเดินทางมาใช้บริการ มีรถประจำทาง รถตู้โดยสารผ่าน ก็มีส่วนช่วยอยู่พอสมควร
ลดขนาดศูนย์การค้า ตามพฤติกรรมผู้บริโภค
จากที่เริ่มสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค พบว่า ผู้บริโภคเดินในโซนศูนย์การค้าลดลง แต่ชอบเดินโซนพลาซ่า (โซนร้านค้าจากภายนอก) ที่มีร้านค้าหลากรูปแบบ สินค้าหลายประเภทให้เลือกซื้อ และยิ่งปัจจุบันร้านแบรนด์ต่างๆ ก็นิยมเปิดช็อปของตัวเองในโซนพลาซ่า มากกว่าเป็นสินค้าขายในศูนย์
ดังนั้น ตั้งฮั่วเส็ง จึงปรับตัวโดยการลดพื้นที่โซนศูนย์การค้าลง แล้วเพิ่มพื้นที่โซนพลาซ่าให้มากขึ้น ข้อดีคือ ตอบโจทย์ผู้บริโภค และจำนวนคนก็เดินมากขึ้น การจับจ่ายใช้สอยก็เพิ่มขึ้น ดีทั้งกับตั้งฮั่วเส็ง และกับผู้เช่าด้วย
นอกจากนี้พฤติกรรมการซื้ออาหารก็เปลี่ยนเช่นกัน ความนิยมซื้ออาหารสำเร็จกลับไปกินที่บ้านมากขึ้น แต่ซื้ออาหารสดกลับไปทำเองลดลง ดังนั้นการมีร้านค้าทั้งกินในห้าง และซื้อกลับไปกินได้เลยก็ต้องมีให้เลือกมากขึ้นด้วย
ปีนี้ติดลบ แย่ที่สุดตั้งแต่เปิดมา 55 ปี
วิโรจน์ บอกว่า ตลอด 55 ปีที่ผ่านมา มีช่วงดีช่วงร้ายเกิดขึ้น แต่ปี 59 เป็นปีที่แย่ที่สุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา ถ้าช่วงปลายปี ซึ่งเป็นเวลาของการจับจ่ายใช้สอยดีขึ้น คาดว่ารายได้จะลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10% เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้เช่าในห้างฯ จึงมีการปรับลดค่าเช่าลงประมาณ 10% แล้วแต่พื้นที่ พร้อมกับมีการเจรจาขอคืนพื้นที่ เพื่อปรับปรุงภายในใหม่ ดึงร้านค้า ร้านอาหารใหม่ๆ เช่น ยาโยอิ, ซานตาเฟ่ เข้ามา เพื่อสร้าง Traffic ในห้างให้มากขึ้น
แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่แย่ที่สุด แต่ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นบ้าง เชื่อว่าปี 2560 น่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้
ใครที่อยากไปสัมผัสงาน ร้อยเรียง เคียงศิลป์ ครั้งที่ 23 ไปได้ที่ ตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี ชั้น 5 วันที่ 13-24 ต.ค. นี้
สรุป
จากจุดกำเนิดของร้านค้าเล็กๆ และพัฒนามาเป็นห้างสรรพสินค้า มี 2 สาขาคือ ธนบุรี และ บางลำพู และไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่ม โดยมีรายได้ปี 58 ประมาณ 1,600 ล้านบาท คือสิ่งที่ ตั้งฮั่วเส็งเป็นในปัจจุบัน
ถ้าวิเคราะห์ภาพรวมของห้างสรรพสินค้า รายใหญ่ 2 รายที่ครองตลาดคือ เซ็นทรัล และ เดอะมอลล์ ที่ขยายธุรกิจออกไปทั่วทุกทิศทางเพื่อปิดตลาดนี้แบบเบ็ดเสร็จ
ตั้งฮั่วเส็ง จึงอาศัยความแตกต่างที่มี Hobby Center ที่หาได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น สร้างกลุ่มลูกค้าขาประจำ แต่ในระยะยาวจะเพียงพอหรือไม่ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ ที่ชื่อ ตั้งฮั่วเส็ง เรียกยากและไม่ติดหู เพราะต้องไม่ลืมว่าคนกลุ่มนี้คืออนาคตผู้บริโภคที่กำลังเพิ่มขึ้น โจทย์นี้ไม่ง่ายสำหรับตั้งฮั่วเส็ง
ขอบคุณภาพจาก SellSuki
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา