ตลาด Video Streaming ของอินเดียยังเป็นตลาดที่เริ่มต้นโตแค่นั้น แต่บริษัทอย่าง Netflix หรือแม้แต่ Amazon กำลังสนใจที่จะเจาะตลาดนี้อย่างหนัก รวมไปถึงเจ้าถิ่นอย่าง Fox ที่พยายามหาลูกค้าเพิ่มเติมอีกด้วย
ถึงแม้ว่าสงครามการขับเคี่ยวของ Video Streaming ในโลกจะเริ่มเหลืออยู่ไม่กี่เจ้าแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น Netflix Amazon หรือแม้แต่ Warner (HBO) และรวมไปถึง Disney แต่ในตลาดอินเดียที่พึ่งเริ่มเปิดรับความบันเทิงใหม่ๆ นั้นถือว่าพึ่งเริ่มศึกสงคราม โดยมีลูกค้าจำนวนมหาศาลเป็นรางวัล
ปัจจุบันตลาด OTT ในประเทศอินเดียมีมูลค่าเพียงแค่ 296 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น ทำให้ยังมีโอกาสโตได้อีกมาก ข้อมูลจาก KPMG ได้ประเมินว่า ตลาด OTT ของอินเดียจะโตถึง 45% ต่อปี จนถึงปี 2023
นอกจากนี้ Limelight Networks ได้ศึกษาข้อมูลพฤติกรรมของชาวอินเดียว่าเฉลี่ยต่อคนแล้วดูวิดีโอผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์สัปดาห์ละ 8 ชั่วโมง 28 นาที มากกว่าในปี 2016 ถึง 58% และยังมากกว่าการรับชมโทรทัศน์ไปแล้วอีกด้วย
การที่ตลาด OTT จะเติบโตได้มากขนาดนี้ต้องยอมรับถึงการที่คนอินเดียใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และรวมไปถึงค่าใช้จ่ายแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตที่ถูกลง เนื่องจากผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามาในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากมาย เช่น E-commerce เป็นต้น
สำหรับประเทศอินเดียตอนนี้เป็นการแข่งขันระหว่าง Netflix และ Amazon Prime Video แถมยังมีผู้สอดแทรกอย่าง Fox ที่เข้ามาหวังจะแย่งชิงพื้นที่ตรงนี้ด้วย
Netflix พยายามตีตลาดนี้
Reed Hastings ซึ่งเป็น CEO ของ Netflix ได้กล่าวถึงความยากของตลาดอินเดียว่า อินเดียเป็นประเทศที่มีภาษาท้องถิ่นกว่า 20 ภาษา ซึ่งสร้างความปวดหัวไม่น้อย แต่ Netflix จะจับกลุ่มลูกค้าที่สามามารถเข้าใจภาษาอังกฤษได้ โดย Netflix เตรียมส่งซีรี่ส์อินเดียถึง 9 เรื่องด้วยกัน
อีกปัจจัยสำคัญของ Netflix ที่ไม่สามารถเจาะตลาดอินเดีย รวมไปถึงตลาดกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาได้คือราคาของแพ็คเกจที่ถือว่าแพงมากเมื่อเทียบกับรายได้ของประชาชนในประเทศ อย่างในอินเดีย ค่าบริการรายเดือนของ Netflix คือ 500 รูปีต่อเดือน ซึ่งถือว่าแพงมาก ทำให้ Netflix อาจต้องเปลี่ยนแผนที่จะปรับราคาแพคเกจลงมาให้เข้าถึงชาวอินเดียได้
Fox เอาถ่ายทอดสด Cricket ไปสู้
โดยค่าย Fox ของมหาเศรษฐีอย่าง Rupert Murdoch ถึงแม้ว่าอีกไม่นานกิจการต่างประเทศแทบทั้งหมดจะตกเป็นของ Disney แต่การจับกลุ่มลูกค้าอินเดียของค่าย Fox ถือว่าไม่ยอมใคร เนื่องจากเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่โดยเฉพาะเครือข่าย Star ที่ผลิตคอนเทนต์ส่งให้กับเคเบิลทีวีในอินเดีย รวมไปถึงประเทศข้างเคียง
โดยแพลตฟอร์ม Hotstar ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเหมือนกับ Netflix แถมล่าสุดยังได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดคริกเก็ต ซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมที่สุดของอินเดีย โดยเฉพาะรายการอย่าง Indian Premier League และยังรวมไปถึงละครที่สามารถใช้คอนเทนต์ร่วมกับ Star ได้ ซึ่งเป็นจุดแข็งของ Hotstar
นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่ครองใจลูกค้าชาวอินเดียจนกลายเป็น Application ที่ชาวอินเดียดาวน์โหลดมากถึง 300 ล้านครั้ง คือแพ็คเกจที่ถูกมากคือ 999 รูปีต่อปี หรือประมาณปีละ 500 บาทเท่านั้น
Prime Video ปีหน้าเจอ Original Content เยอะกว่าใคร
Amit Agarwal ผู้บริหารของ Amazon India กล่าวว่าปีหน้า Amazon Prime Video ของประเทศอินเดียจะมี Original Content มากถึง 30 เรื่อง มากกว่าคู่แข่งด้วยซ้ำ นอกจากนี้ Prime Video ยังได้ดูซีรี่ส์ที่ Amazon สร้างหลังจากปล่อยในสหรัฐในวันเดียวกันหรือช้ากว่าแค่วันเดียวเท่านั้นอีกด้วย
ล่าสุด Amazon ยังมีการสนับสนุนภาษาฮินดีในเว็บไซต์ของ Amazon Prime Video ด้วย และรวมไปถึงจะมีซับไตเติ้ลและเสียงพากย์เป็นภาษาฮินดีสำหรับละครบางเรื่อง ซึ่ง Amazon กำลังรุกเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าชาวอินเดีย
ยังรวมไปถึงราคาแพ็คเกจที่คิดเท่ากับ Hotstar ที่ราคาปีละ 999 รูปีอีกด้วย ซึ่งเป็นราคาที่ถูกสุดของ Amazon Prime Video ที่ให้บริการทั่วโลกด้วย
สรุป
ศึกของ OTT ในประเทศอินเดียยังมีการต่อสู้กันยาวไกล เนื่องจากคู่แข่งที่มีหลากหลาย ซึ่งจุดสำคัญคือใครสามารถที่จะมี Content ที่สามารถมัดใจชาวอินเดียได้มากกว่ากันเท่านั้น ซึ่งตลาดอินเดียเป็นตลาดที่ไม่ง่ายเลย เนื่องจากภาษาท้องถิ่นที่มาก ทำให้ต้องมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ถ้าหากจะเจาะลูกค้าในประเทศนี้
ที่มา – KPMG, Bloomberg, The Economic Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา