ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เผยผลสำรวจจาก DDproperty Property Index Report พบว่า พื้นที่ชานเมืองรอบนอกศูนย์กลางธุรกิจที่มีการขยายตัวของโครงการคมนาคมพื้นฐานและโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ มีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างมาก
บ้านเดี่ยวเป็นที่อยู่อาศัยอีกหนึ่งประเภทที่มีดัชนีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนอย่างน่าสนใจ เพราะเมื่อเทียบกับไตรมาสนี้เมื่อปีที่แล้ว ดัชนีราคาของที่อยู่อาศัยประเภทนี้เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 12 นับเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียม และทาวน์เฮ้าส์
บางพลัด เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่น่าจับตามอง มีโครงการบ้านเดี่ยวราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทเติบโตสูงถึง 18% เป็นผลจากการเปิดใช้ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกที่เชื่อมฝั่งธนบุรีและพระนคร นอกจากนี้ เขตคลองเตย มีการปรับตัวของราคาทาวน์เฮ้าส์มากที่สุด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในย่านสำคัญที่ปัจจุบันหาที่ดินสำหรับพัฒนาที่อยู่อาศัยในลักษณะนี้ได้ยากเต็มทีหรือหากมีราคาก็จะสูงมากส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พื้นที่ในเขตสัมพันธวงศ์ มีการปรับตัวสูงสุดในรอบไตรมาสที่ผ่านมาถึงร้อยละ 12 ในประเภทคอนโดมิเนียม ซึ่งได้รับอานิสงส์จากโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562
ครึ่งปีหลังนี้ ผู้ประกอบการพยายามเร่งระบายสินค้าคงค้างของตัวเอง ผ่านแคมเปญและโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ไม่วาจะเป็นข้อเสนอส่วนลดเงินสด ค่าใช้จ่ายในการทำสัญญาจอง-ซื้อ-โอน รวมไปถึงของแถมต่าง ๆ ที่จะช่วยเร่งให้ผู้บริโภคตัดสินใจ ในขณะที่จำนวนสินค้าใหม่ที่เข้าสู่ตลาดในช่วงเวลาเดียวกันมีไม่มาก ทั้งนี้ คอนโดมิเนียม ซึ่งมีสัดส่วนอุปทานมากที่สุดในตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยทำเลที่มีอุปทานคอนโดมิเนียมสูงสุดยังคงเป็นเขตวัฒนาคิดเป็นร้อยละ 23 ของอุปทานคอนโดมิเนียมที่ขายในกรุงเทพฯ ทั้งหมด ขณะที่อุปทานที่อยู่อาศัยแนวราบมีการปรับตัวไตรมาสต่อไตรมาสเพิ่มขึ้น แบ่งออกเป็นทาวน์เฮาส์ ร้อยละ 8 และบ้านเดี่ยวร้อยละ 4
สำหรับอุปทานทาวน์เฮ้าส์ เขตลาดพร้าวยังมีสัดส่วนมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 46 ของอุปทานทาวน์เฮ้าส์ในกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจในการพัฒนาโครงการทาวน์เฮ้าส์ในพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยสัดส่วนอุปทานทาวน์เฮ้าส์ราคา 5-10 ล้านบาท ในเขตลาดพร้าว มีสัดส่วนมากที่สุด สำหรับทำเลที่มีอุปทานบ้านเดี่ยวสูงสุดยังคงเป็นเขตประเวศที่ครองอันดับหนึ่ง
ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาประกาศ 3 มาตรการที่จะเข้ามาควบคุมสินเชื่อบ้าน ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ คาดว่าจะส่งผลต่อการช่วยลดดีมานด์เทียม หรือลดโอกาสในการเก็งกำไรได้มากขึ้น และช่วยให้ประชาชนได้ซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสม ผู้ซื้อไม่ประเมินความเสี่ยงต่ำเกินไป และลดผลกระทบจากการปรับลดลงของราคาอสังหาริมทรัพย์ได้มากขึ้น ทางฝั่งผู้ประกอบการก็สามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างเหมาะสม และลดโอกาสการเกิดภาวะฟองสบู่ด้วยเช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา