ช่วงหลายปีมานี้ นิวยอร์กนั้นครองแชมป์เมืองที่มีมหาเศรษฐีระดับท็อปของโลกอยู่มากที่สุด แต่ล่าสุดมีรายงานจาก Wealth-X ระบุว่าตอนนี้นิวยอร์กถูกโค่นแชมป์แล้วโดย “ฮ่องกง“
บุคคลธรรมดาที่มีสินทรัพย์สูงมากหรือ ultra-high-net-worth individuals: UHNWI นั้น Wealth-X ให้คำนิยามว่าเป็นบุคคลธรรมดาที่มีสินทรัพย์ตั้งแต่ 30 ล้านดอลลาร์หรือมากกว่า โดยนิวยอร์กนั้นครองแชมป์อันดับหนึ่งมาตั้งแต่ที่ Wealth-X จัดอันดับในปี 2011 ในขณะที่ปีที่แล้วฮ่องกงยังอยู่อันดับสาม แต่ปีนี้ฮ่องกงแซงนิวยอร์กขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้แล้ว
Wealth-X ให้ความเห็นว่าจำนวนเศรษฐีในฮ่องกงนั้นมีแรงผลักดันหลักมาจากตลาดหุ้นฮ่องกงที่บูมมาก จนถึงความสัมพันธ์ทางการเงินกับจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสูงมาก โดยปัจจุบันคนที่รวยที่สุดบนเกาะฮ่องกงคือ Li Ka-shing ในขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่นั้นยังไม่มีเมืองเดียวที่รวมมหาเศรษฐีไว้มากที่สุดติดอันดับท็อป 10
แม้นิวยอร์กจะพ่ายให้ฮ่องกง แต่โดยรวมแล้วสหรัฐฯ ยังคงครองแชมป์ประเทศที่เป็นบ้านของกลุ่มมหาเศรษฐีในโลกถึงหนึ่งในสาม แต่ตอนนี้จำนวนของมหาเศรษฐีในเอเชียก็เติบโตถึง 20% และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกน่าจะปิดช่องว่างของกลุ่มมหาเศรษฐีเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ ได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดี ปีนี้อาจไม่ใช่ปีที่ดีของจีน เนื่องจากต้องพบกับสงครามการค้ากับสหรัฐฯ และมีหนี้สินมหาศาลในระบบการเงิน ซึ่งก็ต้องจับตาดูเศรษฐกิจจีนต่อไป
ส่วนเมืองอื่น ๆ ที่มีมหาเศรษฐีอยู่ติดท็อป 10 นอกจากฮ่องกงและนิวยอร์กก็มีโตเกียว, ลอสแอนเจลิส, ปารีส, ลอนดอน, ชิคาโก, ซานฟรานซิสโก, วอชิงตัน ดี.ซี. และ โอซาก้า
ที่มา – CNN Money
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา