ก่อนหน้านี้ GET! เพิ่งประกาศเปิดตัวในประเทศไทย โดยมี GO-JEK สตาร์ทอัพยูนิคอร์น บริการเรียกรถจากอินโดนีเซียเป็นพาร์ทเนอร์สำคัญ ซึ่งนอกจากไทยแล้ว ก็ยังมีประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะ เวียดนาม ที่ให้บริการในชื่อ GO-VIET
และวันนี้ GO-VIET ประกาศขยายบริการครอบคลุม 12 เขตในนครโฮจิมินห์ พร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถดาวน์โหลดแอพได้แล้วทั้งทาง App Store และ Google Play
GO-VIET เริ่มต้นการเปิดตัวแบบซอฟต์ลอนช์ (soft-launch) หลังจากประสบความสำเร็จในขั้นตอนการทดสอบที่เรียกว่า “GO-VIET EXPLORERS” เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ให้บริการกับผู้ใช้ในเขต 1 และ 3 ของโฮจิมินห์ และวันนี้ ทาง GO-VIET จะเริ่มให้บริการเรียกรถและส่งสินค้า (GO-BIKE และ GO-SEND) ในเขต 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 10, 11, รวมถึงเขตTan Binh, Phu Nhuan และ Binh Thanh
ดุ๊ค เหวียน (Duc Nguyen) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GO-VIET กล่าวว่า เฟสแรกในการทดสอบแอพของเป็นไปได้ด้วยดีอย่างมาก และได้รับฟีดแบ็กที่ดีจากผู้ใช้บริการที่เข้าร่วมโปรแกรมการทดสอบ และตอนนี้ GO-VIET พร้อมขยายบริการให้เขตต่างๆ ทั่วโฮจิมินห์เพิ่มขึ้น โดยให้ทุกคนดาวน์โหลดแอพได้แล้ว
ในช่วงซอฟต์ลอนช์นี้ GO-VIET จะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีตามที่ได้รับฟีดแบ็กจากกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ขณะนี้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการรับสมัครคนขับมาเข้าร่วมแล้วหลายพันคน เพื่อให้บริการที่ครบครันและตอบโจทย์แก่ผู้คนในโฮจิมินห์ โดยนำเทคโนโลยีชั้นนำในตลาดจาก GO-JEK มาใช้งาน
GO-VIET จะเป็นประเทศแรกในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศของ GO-JEK โดยแบรนด์ GO-VIET ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในเวียดนาม โดยทีมผู้ก่อตั้งและผู้บริหารที่เป็นคนเวียดนามที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับทั้งผู้บริโภค คนขับ และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ
การเปิดตัวของ GO-VIET จะเป็นการนำเทคโนโลยีระดับโลกมาสู้ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจของ GO-JEK สู่ต่างประเทศ ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในประเทศเวียดนาม ไทย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ โดยการแถลงการณ์ลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการเพิ่มทุนในรอบล่าสุด ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำต่างๆ อาทิ กูเกิล (Google), วอร์เบิร์ก พินคัส (Warburg Pincus), เคเคอาร์ (KKR), เทนเซ็นต์ (Tencent) และเหม่ยถวน–เตี้ยนผิง(Meituan-Dianping)
น่าจับตามองต่อไปว่า GET! จะพร้อมเปิดให้บริการในประเทศไทยเมื่อไร
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
Related