เมื่อเงินออม-เงินใช้มันปนกัน TMB จัด “ME Move” อยากใช้ได้ใช้ อยากออมดอกเบี้ยสูง

ในสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ไม่ว่าจะเรื่อง กิน เที่ยว ช้อปปิ้งเราก็ใช้เงินสดกันน้อยลง และหันมาใช้จ่ายผ่านโมบายแบงก์กิ้งมากขึ้น แน่นอนว่าปัญหาใหญ่คือ เงินออมกับเงินส่วนที่ใช้จ่ายปนกันไปหมด ดังนั้นเพิ่อแก้ปัญหานี้ ME by TMB ก็เตรียมบริการใหม่ไว้ให้ลูกค้าแล้ว

ต่อยอดบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงของ ME เพิ่มบัญชีสำหรับใช้จ่าย “ME Move”

มิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารส่งเสริมการตลาดลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบี และ ME by TMB บอกว่า เมื่อ
6
ปีก่อน ME by TMB เป็นธนาคารดิจิทัลแห่งแรกที่เกิดขึ้นในไทย ดยมีผลิตภัณฑ์เงินฝาก ME ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด 4.5 เท่า (ปัจจุบันอยู่ที่ 1.7% ต่อปี) แต่ตอนนี้ทางธนาคารเพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่บัญชีเพื่อการใช้จ่ายในชื่อ “ME Move”

กลยุทธ์ของ ME คือให้ลูกค้ามีเงินออมแบบได้อัตราดอกเบี้ยดีที่สุด ผ่าน ME Save (บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของ ME)  และเมื่อลูกค้าเปิดบ๊ญชีคู่กับ บัญชีเพื่อการใช้จ่าย ME Move ลูกค้าจะสามารถตั้งค่าโอนเงินส่วนที่เหลือจากการใช้งานไปรับดอกเบี้ยสูงขึ้นได้อัตโนมัติ

ปัจจุบันฐานลูกค้า ME by TMB อยู่ที่ 3.3 แสนบัญชี ซึ่งเราตั้งเป้าหมายว่าจะมีลูกค้าเปิดบัญชี ME Move ที่ 40,000 บัญชี ภายในปีนี้ โดยใน 3 สัปดาห์ที่ผ่านหลังการออก ME Move มีลูกค้าเปิดบัญชีกว่า 9,000 บัญชี

ฟีเจอร์ใหม่ Balance Sweep ให้ลูกค้าตั้งค่าโอนเงินเข้าบัญชีออมดอกฯสูงอัตโนมัติ

ดร. เบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ME by TMB บอกว่า ปัจจุบันคนไทยมีเงินฝากกว่า 80 ล้านบัญชี หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ได้ดอกเบี้ยที่ประมาณ 0.5% เท่านั้น แต่เขาก็ต้องฝากไว้เพราะอยากเก็บไว้เป็นเงินฉุกเฉิน

จากเหตุนี้เองที่ทำให้ ME by TMB มีฟีเจอร์ Balance Sweep เป็นที่แรกในไทย ให้ลูกค้าสามารถตั้งค่าการโอนเงิน (Sweep) ส่วนเกินจากการใช้จ่าย เข้าบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง ME Save ของตนเองได้ง่ายขึ้น

หลักๆฟีเจอร์นี้จะให้ลูกค้าตั้งค่า 2 อย่างคือ 1. กำหนดได้ว่าจะมีเงินคงเหลือในบัญชี ME Move เท่าไร เช่น ตั้งไว้ที่ 10,000 บาท ถ้ามีเงินโอนเข้ามา ส่วนเกินนั้นจะถูก Sweep ไปที่ ME Save 2. ลูกค้าสามารถตั้งค่าการ Sweep ได้ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และตั้งค่าให้เงิน Sweep ไปออมรับดอกเบี้ยสูงบ่อยเท่าไรก็เลือกได้

ในยุคดิจิทัล ลูกค้าควรจะมีบัญชีเพื่อการออมเงิน และเพื่อการจ่ายเงินแยกจากกันชัดเจน ซึ่งบัญชี ME Move เป็นบัญชีเพื่อการใช้จ่ายดิจิทัล สามารถใช้จ่ายรายการที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน เรากำลังพัฒนาอีกเยอะ จุดเด่นคือ ME Move ยังปลอดค่าธรรมเนียม 100% ไม่ว่าจะเป็น ค่าธรรมเนียมการโอน การเปิดบัญชี หรือค่าธรรมเนียมบัตร รวมถึงสามารถโอนเงินต่างแบงก์ได้ทันที

เตรียมอัพเกรด ME Move เชื่อมพร้อมเพย์ เปิด Virtual Card

เฟสแรก ME Move สามารถโอนเงินข้ามแบงก์ได้ โดยไม่เสียค่าธรรม มีฟีเจอร์ Balance Sweep ส่วนเฟส 2 เราเตรียมพัฒนาให้ ME Move เชื่อมาการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ สามารถชำระค่าสินค้า ค่าสาธารณูปโภค (Bill Payment) เติมเงิน (Top-ups) ฯลฯ ซึ่งคาดว่าจะเห็นในปลายไตรมาส 3 ปี 2561

ส่วนเฟสที่ 3 ทางเราจะพัฒนาไปถึงการออก Virtual Card หรือบัตรเสมือนจริงที่ให้ลูกค้าสามารถใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ได้ ซึ่งจะเห็นในไตรมาส 4 ปีนี้ นอกจากนี้ทางธนาคารเตรียมออกฟีเจอร์ใหม่ๆที่อยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น การชำระเงินผ่านระบบ Contactless payments การชำระเงินด้วย QR code และการถอนเงินจากตู้ ATM โดยไม่ใช้บัตร (Card-less ATM withdrawals) เป็นต้น

ตอนนี้เราพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ให้เป็นดิจิทัลทั้งหมด เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้ง่าย ใช้ได้จริงและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่ม Gen Y (เกิดระหว่างปี 2523-2540) Gen Z (เกิดหลังปี 2540)เป็นหลัก ให้สามารถบริหารการเงินได้คล่องตัว ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องไปสาขา อย่าง ME Move ลูกค้าใช้เวลาสมัครแค่ 2 นาทีบนโมบายแบงก์กิ้งเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ ME กำลังพัฒนาอยู่คือ การทำ E-KYC หรือการระบุตัวตนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าใหม่สามารถสมัครใช้งานผลิตภัณฑ์ของธนาคารได้ โดยไม่ต้องแสดงตัวที่สาขา ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างกระบวนการขออนุญาตเข้าทดสอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถือเป็นก้าวสำคัญร่วมกันระหว่างอุตสาหกรรมธนาคาร

 

สรุป

ME by TMB  เปิดตัวบัญชีเพื่อการใช้จ่ายในชื่อ ME Move เพื่อให้ลูกค้าบริหารเงินส่วนตัวได้ดีขึ้น เพราะสามารถแบ่งเงินที่จะใช้ แต่ถ้ามีเงินส่วนเกินที่ใช้ก็ตั้งค่าให้โอนไปรับดอกเบี้ยสูงที่บัญชีเงินฝาก ME Save (เงินฝากออมทรัพย์ของ ME เดิม)

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา