ไม่แปลกที่ภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์จะกลับมาคึกอีกครั้งใน 1-2 ปีที่ผ่านมา เพราะกระแสการเล่นเกมเพื่ออาชีพ และการแข่งขัน E-Sport นั้นบูมมากๆ แต่เพื่อตอบรับเทรนด์ดังกล่าว Lenovo ก็ต้องปรับจุดยืนของตัวเองมากขึ้น
จากเครื่องระดับ Premium สู่ Sub-Gaming
ปัจจุบันยอดขายคอมพิวเตอร์กับผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องแบบ Notebook เพราะด้วยความสะดวก รวมถึงราคาที่ปรับลงมาจากเมื่อก่อนค่อนข้างมาก ทำให้คนส่วนใหญ่ที่จะเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ซักเครื่อง ก็จะเลือกเป็น Notebook เสียมากกว่า ซึ่งปัจจัยนี้เองก็เกิดขึ้นกับกลุ่มที่เลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมเช่นกัน
ถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ เลอโนโว ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า Notebook ในตลาดตอนนี้แบ่งเป็น 3 ประเภทหลักคือ Thin&Light, 2in1 และ Gaming ซึ่งประเภทสุดท้ายนั้นมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก ผ่านมูลค่าต่อเครื่องที่สูง รวมถึงกระแสที่จูงให้ให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเครื่องแบบนี้มากขึ้น
“มูลค่าต่อเครื่องมันค่อนข้างสูง แต่ก็ได้มาซึ่งประสิทธิภาพ เช่น CPU เหมือนใน Desktop และการ์ดจอแยก ทำให้หลายคนเลือกที่จะซื้อ Notebook ที่แพงกว่า 26,000 บาท หรือกลุ่ม Premium Gaming มากขึ้น ซึ่ง Lenovo เองก็ค่อนข้างแข็งแกร่งในตลาดนี้ แต่ถ้าเราจะเป็นผู้นำจริงๆ ก็ต้องทำตลาดกลุ่ม Sub-Gaming ที่ราคาต่ำกว่าด้วย”
เร่งเพิ่มยอดเพื่อเดินตามแผนเป็นเบอร์หนึ่ง
สำหรับกลุ่ม Sub-Gaming นั้น ราคาต่อเครื่องจะอยู่ราว 21,000-25,000 บาท โดยที่ถูกลงมาเพราะลดความสามารถของ CPU และการ์ดจอลงมา ซึ่งเครื่อง Notebook แบบนี้เพิ่งเข้ามาในตลาดไทยเมื่อ 6 เดือนก่อน และดึงดูดกำลังซื้อของผู้บริโภคระดับเริ่มต้นไปมาก เพราะด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย
“ยอมรับว่าตอนนี้ Lenovo ยังไม่มีสินค้า Sub-Gaming มากนัก และตามหลังคู่แข่งอยู่มาก แต่ในช่วงครึ่งปีที่เหลือจะมีสินค้าแบบนี้เข้ามามากขึ้น เพิ่มเติมเต็มไลน์สินค้า และสามารถขึ้นเป็นผู้นำในตลาด Gaming Notebook ได้จริงๆ เสียที จากเดิมที่เราเป็นผู้นำในเรื่อง Premium Gaming อยู่”
ทั้งนี้ Lenovo ทำตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับ Premium Gaming ในชื่อแบรนด์ Legion ครอบคลุมทั้ง Notebook, Desktop และอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ ส่วนกลุ่ม Sub-Gaming นั้นจะทำตลาดในชื่อรุ่น IdeaPad เป็นชื่อเดียวกับสินค้ากลุ่ม Notebook สำหรับผู้บริโภคทั่วไป
ตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยที่เริ่มฟื้นตัว
ด้านภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยปีนี้บริษัทวิจัย IDC คาดว่าจะอยู่ที่ 1.2 ล้านเครื่อง มีการเติบโตเล็กน้อย เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ในราคาที่แพงขึ้น และมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนในการซื้อแต่ละครั้ง ส่วนยอดขายในประเทศไทยนั้น Lenovo สามารถเติบโตได้ถึง 13% ในปีปฏิทินก่อน (สิ้นสุดเดือนมี.ค.)
“ถ้าในภาพรวมตอนนี้เป็นเราเป็นเบอร์ 2 ของตลาด และไล่จี้เบอร์หนึ่งใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เพราะเรามีการลงทุนทั้งเรื่องการทำตลาดกับพาร์ทเนอร์ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่เข้าไปทำกับผู้บริโภค ในการจูงใจให้พวกเขาขาย และซื้อสินค้าของเราตามลำดับ ยิ่งเราทำตลาด Gaming อย่างชัดเจน มันก็โอกาสถึงเป้าหมายเบอร์หนึ่งเพิ่มขึ้นเช่นกัน”
โดยภาพรวมสัดส่วนของยอดขายในแง่มูลค่าเครื่อง Gaming Notebook ในประเทศไทยอยู่ที่ 25% ของเครื่องทั้งหมด (10% ในแง่จำนวนเครื่อง) และมีความเป็นไปได้ที่จะพุ่งขึ้นเป็น 35-40% ในปีนี้ เพราะตลาด Gaming นั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว และทำให้ไทยเป็นเบอร์ต้นๆ ของตลาดนี้ในเอเชียแปซิฟิค รองแค่จีน และเกาหลีใต้
สรุป
เมื่อตลาด Gaming เติบโต การหันหน้าบุกตลาดนี้ของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หลายรายก็จำเป็น ดังนั้นจะได้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างแบรนด์ต่างๆ กับสินค้ากลุ่มนี้แน่นอน ซึ่งผลประโยชน์มันก็น่าจะไปอยู่ที่ผู้บริโภค เพราะได้ใช้เครื่องที่ราคาไม่สูง แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา