Connected-Truck บูม! ค่ายรถบรรทุกญี่ปุ่นเร่งติดตั้ง คาดปี 2563 มีวิ่งกันในประเทศครึ่งล้าน

Connected-Car ถูกพูดถึงในตอนนี้มากขึ้น เพราะด้วยระบบการสื่อสารที่ล้ำสมัย และประสิทธิภาพที่ยกระดับการขับขี่อย่างชัดเจน ยิ่งบริษัทขนส่งในประเทศญี่ปุ่นนั้นขาดแคลนทรัพยากรคนอย่างมาก ระบบดังกล่าวก็ต้องเร่งติดตั้ง

รถบรรทุกในประเทศญี่ปุ่น

ทุกค่ายรถบรรทุกในญี่ปุ่นเร่งติดตั้งระบบนี้

ปัจจุบันบริษัทขนส่งพัสดุในประเทศญี่ปุ่น เช่น Yamato Holdings (แมวดำ) รวมถึงรายอื่นๆ ต่างประสบปัญหาพนักงานขับรถบรรทุกที่เชี่ยวชาญเส้นทางทยอยลาออกไปด้วยการเกษียณอายุ แต่ด้วยตลาด E-Commerce ที่นั่นยังเติบโต และในปีปฏิทิน 2559 ก็มีจำนวนพัสดุส่งกันในประเทศกว่า 4,000 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 40%

แถมแนวโน้มการเติบโตก็ยังเพิ่มขึ้นแน่ๆ ทำให้บริษัทขนส่งพัสดุในญี่ปุ่นต่างต้องการเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าได้เหมือนเดิม จึงไม่แปลกที่ค่ายผู้ผลิตรถบรรทุก และรถเพื่อการพาณิชย์ต่างเร่งติดตั้งเทคโนโลยี Internet-Connected หรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายในรถรูปแบบดังกล่าวทุกราย

ไล่ตั้งแต่แบรนด์ UD Trucks ของ Volvo Group ที่มีแผนจำหน่ายรถบรรทุกที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้กว่า 1 แสนคันภายในปี 2563 และเพิ่มเป็น 1.5 แสนคันในปี 2568 โดยเฉพาะรถเพื่อการพาณิชย์ตระกูล Quon ที่จะติดตั้งระบบดังกล่าวเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในทุกร่น แถมยังมีระบบตรวจสอบรถยนต์ระยะไกลเพื่อดูแลเรื่องปัญหาต่างๆ

จำนวนเพิ่ม 150% เป็น 5 แสนคันในปี 2563

Mitsubishi Fuso Truck and Bus ของกลุ่ม Daimler ก็เตรียมขยายรุ่นที่ติดตั้งระบบดังกล่าวด้วย จากเดิมที่ติดตั้งในรุ่นใหญ่อย่าง Super Great นอกจากนี้ยังเตรียมติดตั้งระบบนี้ในรุ่นขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% eCanter ที่จะเปิดตัวในปี 2563 และบริษัทคาดว่าจะมีรถเพื่อการพาณิชย์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้วิ่งอยู่กว่า 1 แสนคันในปีนั้น

Mitsubishi Fuso รุ่น eCanter

ขณะเดียวกัน Isuzu Motors ก็มีแผนที่จะจำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์ที่ติดตั้งระบบนี้กว่า 2.5 แสนคันภายในปีปฏิทิน 2563 ผ่านการติดตั้งระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตั้งแต่รุ่นเล็ก, กลาง ถึงรุ่น Giga ที่ใหญ่ที่สุด ส่วน Hino Motors ของ Toyota ก็มีแผนจำหน่ายรถบรรทุกที่ติดตั้งระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้เมื่อนำตัวเลขคาดการณ์ของทุกผู้ผลิตมารวมกันจะพบว่าในปี 2563 จะมีรถบรรทุก และรถเพื่อการพาณิชย์ที่ติดตั้งระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตวิ่งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นถึง 5 แสนคัน คิดเป็น 15% ของรถบรรทุกในประเทศกว่า 3.5 ล้านในปัจจุบันที่เติบโตแค่ปีละ 5% และจำนวน 5 แสนคันนั้นยังเติบโตจากปัจจุบันถึง 150% ด้วย

มากกว่าแค่ให้ข้อมูล แต่คือการดึงประสิทธิภาพ

สำหรับรถบรรทุก และรถเพื่อการพาณิชย์ที่ติดตั้งระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะเรียกรวมๆ ว่า Connected Truck และการเชื่อมต่อนั้นก็เน้นที่การส่งข้อมูลด้านการขับขี่ต่างๆ เข้าไปที่ศูนย์ควบคุม โดยอ้างอิงจาก GPS ภายในรถ ทำให้ผู้ควบคุมสายส่งสามารถแจ้งเตือน หรือตรวจสอบการขับขี่ของผู้ขับได้ตลอดเวลา

ขณะเดียวกันยังคาดการณ์ว่าระบบนี้จะส่งข้อมูลทั้งจำนวนการเบรก, เร่งเครื่อง และข้อมูลอื่นๆ เข้าศูนย์ควบคุมเช่นเดียวกัน ทำให้บริษัทสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการขับขี่ และเส้นทางในอนาคต โดยมีผลลัพธ์ออกมาคือการลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเชื้อเพลิงได้

สังคมผู้สูงอายุในประเทศญี่ปุ่น

ส่วนในตลาดโลก Mitsubishi Fuso Truck and Bus คือผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์รายใหญ่ที่สุด และมีรถประเภทนี้ที่ติดตั้งระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วกว่า 5 แสนคันวิ่งอยู่ทั่วโลก นอกจากนี้ยังตั้งบริษัทลูกเพื่อรับดูแลเรื่องข้อมูลการขับขี่รถบรรทุกของบริษัทขนส่งต่างๆ เพื่อเพิ่มรายได้ทางอ้อมนอกจากการขายรถเพียงอย่างเดียว

สรุป

เชื่อว่า Connected Truck จะเติบโตได้มากกว่านี้อีกแน่นอน เพราะด้วยความสะดวก และการนำข้อมูลการขับขี่มาวิเคราะห์ต่อได้ ก็น่าจะทำให้บริษัทขนส่งพัสดุต่างๆ เลือกใช้มากกว่าเดิมแน่นอน และมากไปกว่านั้นคือรถบรรทุกไร้คนขับที่น่าจะตามมาในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้จะยกระดับบริษัทขนส่งพัสดุให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

อ้างอิง // Nikkei Asian Review

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา