ยุค Digital Transformation แต่มีกี่องค์กรที่มีการปรับตัว หรือรู้ว่าต้องปรับตัวอย่างไร หลายคนรู้ว่าต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้องค์กร แต่คำถามคือ ทำอย่างไร
รู้หรือไม่ ว่าทำเลที่ตั้ง เป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยี และนำมาซึ่ง กลยุทธ์ด้านทำเลที่ตั้ง หรือ Location Strategy ที่ไม่ใช่แค่ทำเลที่ตั้ง แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อความสําเร็จในแต่ละพื้นที่
มากกว่าแค่แผนที่ แต่เป็น Location Strategy และ GIS
การวางกลยุทธ์ Location Strategy ที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องใช้ Geographic Information System หรือ GIS เป็นระบบข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ เริ่มจากการมีแผนที่ความละเอียดสูงเป็นพื้นฐาน และนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องวางลงไปบนแผนที่เพื่อโยงความสัมพันธ์ของข้อมูลและตำแหน่ง นำไปสู่การขยายผลทางข้อมูล
Location Strategy หรือ GIS นี้จะทำให้สามารถเห็นข้อมูลได้แบบ Real Time ช่วยให้องค์กรตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทำเลขยายธุรกิจ หรือการบริหารต้นทุนการขนส่ง โดยวิเคราะห์จากลักษณะทางภูมิศาสตร์ ประชากร คู่แข่ง และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งหมดคือ ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
Location Strategy สร้างมุมมองที่แตกต่าง
การใช้ Location Strategy สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกธุรกิจ ธุรกิจค้าปลีกและแฟรนไชส์ ก็เป็นหนึ่งในประเภทธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการใช้ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งเป็นเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ ตัดสินใจ วางแผนกลยุทธ์ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
Location Strategy สามารถสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างจากการช่วยวิเคราะห์พื้นที่สำหรับตั้งโรงงาน ตั้งสาขา หาแหล่งวัตถุดิบ โกดังสินค้า และจัดเส้นทางขนส่งสินค้าไปยังร้านค้า
ยกตัวอย่างการเห็นความสัมพันธ์กันของข้อมูลยอดขายกับสภาพอากาศของพื้นที่นั้นๆ เช่นสินค้าหนึ่งขายได้ดีในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง แต่ขายได้น้อยในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำ จะสามารถนำไปสู่การวิเคราะห์ปรับปรุงแผนการดำเนินงาน แผนการตลาด โดยใช้ข้อมูล Real Time จาก Location Strategy เป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จ
เช่น บริษัท U.S. Cellular ผู้ให้บริการระบบไร้สายครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประยุกต์ใช้หลักการเลือกสถานที่ตั้งร้านค้าปลีกตามรูปแบบการจับจ่ายของผู้บริโภค คู่แข่ง และข้อมูลทางการตลาด โดยนำข้อมูลเหล่านี้มาช่วยในการวิเคราะห์หาพื้นที่ที่บริษัทจะได้เปรียบคู่แข่งและมีโอกาสทำยอดขายได้สูงสุด ถือเป็นการสร้างรูปแบบใหม่ในการแข่งขันทางธุรกิจโดยอาศัยข้อมูลที่มีอยู่ในการตัดสินใจ (Business Intelligence)
ปลดล็อกข้อมูลแบบ Real Time เพิ่มศักยภาพธุรกิจ
สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือ การดูข้อมูลแบบ Real Time เพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้แบบทันที ยิ่งเมื่อผสานกับข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น ข้อมูลประชากร อาจทำให้สามารถคาดการณ์ตลาดในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นตลาดระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ
ข้อมูลแบบ Real Time ยังช่วยให้สามารถปรับและพัฒนากลยุทธ์เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ดีและรวดเร็วขึ้น จากการวิเคราะห์ผลกระทบที่มีต่อธุรกิจและความเข้าใจการบริหารจัดการงานในปัจจุบัน
จากข้อมูลของบริษัท Planet Fitness of Maryland ซึ่งเริ่มการวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งและฐานที่อยู่ของสมาชิกประจำ โดยให้รหัสสีที่อยู่ของสมาชิกฟิตเนสตามลำดับการเข้าร่วม ทำให้เห็นรูปแบบทางภูมิศาสตร์ที่แสดงโอกาสทางการตลาดของบริษัทในการขยายธุรกิจไปยังพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อรองรับการขยายตัวของสมาชิก ถือเป็นการยืนยันประโยชน์จากการใช้ข้อมูลเชิงลึกจาก Location Strategy
มาพบกับสุดยอดเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณได้ที่ งาน Esri Business Summit 2018 “Empower Your Business with Location Strategy” ในวันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน 2561 เวลา 13.00 – 16.30 น. ณ ห้อง The Residence 305 โรงแรม Grand Hyatt Erawan
รายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ www.esrith.com/about/event-esri/
*ที่นั่งมีจำนวนจำกัดขอสงวนสิทธิ์เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนเท่านั้น
สรุป
Location Strategy เป็นมากกว่าการเลือกทำเลที่ตั้ง แต่เป็นการสร้างกลยุทธ์จากการนำข้อมูลเชิงลึกมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลทำเลที่ตั้แบบ Real Time ทำให้สามารถบริหารองค์กร กำหนดทิศทาง และวางแผนทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา