การประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายนนี้
สิ่งที่น่าสนใจของเรื่องนี้คือ การประชุมครั้งนี้จะเกิดขึ้นที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซา ประเทศสิงคโปร์ โดยสิงคโปร์จะออกผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 20 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (คิดเป็นเงินไทยราวๆ 480 ล้านบาท)
- แน่นอนว่า หนึ่งในคำถามที่หลายคนอยากรู้คือ คุ้มหรือไม่กับการที่สิงคโปร์ต้องใช้เงินถึง 20 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ไปกับการจัดงานประชุมครั้งนี้?
คุ้มหรือไม่คุ้ม ต้องดูว่า “สิงคโปร์ได้อะไรจากการจัดการประชุมครั้งนี้”
ก่อนที่การประชุมสุดยอดในครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้น ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ได้ออกมาแถลงข่าวถึงการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมโดยระบุว่า “ตามข้อเท็จจริงแล้ว เราได้รับเลือกจากทั้ง 2 ประเทศให้เป็นเจ้าภาพ เราไม่ได้ร้องขอใดๆ มันบอกอะไรบางอย่างถึงความสัมพันธ์ของสิงคโปร์กับแต่ละฝ่าย และชื่อเสียงของเราในประชาคมโลกด้วย”
แน่นอนว่า การเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้จะทำให้สิงคโปร์มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นไปอีก แต่โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ เพราะในฐานะเจ้าภาพ สิงคโปร์ต้องใช้เงินราว 20 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เพื่อจัดงานประชุม โดยจะใช้เงินประมาณ 10 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์กับการดูแลเรื่องความปลอดภัย ส่วนอีก 5 ล้านจะใช้กับการสร้างศูนย์รายงานข่าวเพื่อรองรับสื่อมวลชนกว่า 2,500 คนที่เดินทางมารายงานข่าวจากทั่วโลก
- คำถามสำคัญก็คือ ชื่อเสียงของประเทศแลกกับเงิน 20 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ คุ้มหรือไม่?
ในระหว่างการแถลงข่าว มีนักข่าวคนหนึ่งถามลีว่า สิงคโปร์จะได้อะไรจากการเสียเงินเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมในครั้งนี้
ลี ตอบว่า “ถ้าคุณคิดคำนวณถึงต้นทุนและกำไรของทุกสิ่งบนโลกนี้ คุณจะพลาดสิ่งที่สำคัญจริงๆ ไป” พร้อมทั้งยังบอกต่อด้วยว่า สิ่งสำคัญของการประชุมครั้งนี้คือการทำให้(การประชุม)เกิดขึ้นได้จริง แต่เราไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินไป การใช้เงินระดับนี้ก็เพื่อทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างเรียบร้อยและปลอดภัย
สำหรับเงิน 20 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ลีบอกว่า
“มันเป็นราคาที่เราเต็มใจจะจ่ายเพื่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคนี้”
ในฐานะเจ้าภาพ ก่อนการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ ลีจะได้พบปะพูดคุยกับทรัมป์และคิมแบบทวิภาคี
- 10 มิถุนายน ลีหารือกับคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
- 11 มิถุนายน ลีหารือกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั้งทรัมป์และคิมได้เดินทางถึงประเทศสิงคโปร์แล้ว โดยการประชุมของผู้นำทั้ง 2 ประเทศจะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ และที่สำคัญไม่ว่าผลของการประชุมจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ถึงที่สุดแล้ว ผู้ที่ได้เครดิตไปเต็มๆ ในครั้งนี้คือ “ประเทศสิงคโปร์” เพราะการทำให้ผู้นำของสหรัฐอเมริกามาพบกับผู้นำเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการได้ไม่ใช่เรื่องง่าย
ถึงจุดนี้… คุ้มหรือไม่คุ้ม ลองพิจารณากันดู
อันที่จริงแล้ว “ประเทศไทย” ก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกของการจัดงานประชุมครั้งประวัติศาสตร์นี้ เพราะไทยมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือ แต่ในท้ายที่สุด กลับเป็นสิงคโปร์ที่รับหน้าที่นี้ไป ผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศมองว่า เป็นเพราะบทบาทของสิงคโปร์ในเวทีโลกเรื่องการรักษาสันติภาพ และที่สำคัญต้องยอมรับถึงทักษะทางการทูตของลี เซียนลุง นายกสิงคโปร์ที่ดีเลิศด้วย
ข้อมูล – Channelnewsasia, Straitstimes, BBCThai
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา