ขณะที่ช่อง 3 กำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จาก บุพเพสันนิวาส ออเจ้า และการะเกดอยู่นั้น อีกหลายช่องทีวีดิจิทัลก็กำลังขยับปรับเปลี่ยน เดินหน้ากลยุทธ์เพื่อเข้าถึงคนดูที่มากกว่าเดิม กว้างกว่าเดิม หนึ่งในนั้นคือ GMM Grammy ที่ประกาศจับมือ Netflix เตรียมส่งซีรีส์ไทยรวมกว่า 700 ชั่วโมง ออกไปให้ 125 ล้านคนทั่วโลกได้ดู
จับตลาดคนรุ่นใหม่ ไปกับแพลตฟอร์มระดับโลก
เดิมช่องทีวีที่เป็นผู้นำด้านละคร, ซีรีส์ คือช่อง 7 และ 3 แต่ในรอบปีที่ผ่านมา หลายช่องที่ผลิตซีรีส์ออกมาตีตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง เช่น GMM Grammy ผ่านช่อง GMM 25 ที่เน้นตลาดกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่อย่างชัดเจน มีการพัฒนารูปแบบเนื้อหาใหม่ๆ เช่น Hormones (ฮอร์โมน), Bad Genius (แบด จีเนียส), O-Negative (โอเนกาทีฟ)
และเมื่อมาร่วมมือกับ Netflix ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิดีโอที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกเวลานี้ มีผู้ชมกว่า 125 ล้านคน จาก 190 ประเทศทั่วโลก จึงกลายเป็นโอกาสให้ซีรีส์ไทยออกไปทำตลาดต่างประเทศ ในเมื่อซีรีส์อเมริกา, ยุโรป, อินเดีย, เกาหลี, ญี่ปุ่น มาทำตลาดที่ไทยได้ ซีรีส์ไทยก็น่าจะบุกไปทำตลาดต่างประเทศได้บ้างเช่นกัน
นอจากซีรีส์เดิมที่ออกอากาศไปแล้ว ยังมี ซีรีส์ 11 เรื่องใหม่ที่กำลังจะออกอากาศ เช่น Girl From Nowhere The Series (เกิร์ล ฟอร์ม โนแวร์ เดอะ ซีรีส์), The Judgement (เดอะ จัดจ์เมนท์), Monkey Twins (มังกี้ ทวิน), Bangkok Love Stories Season 2 (แบงคอก เลิฟ สตอรี่ส์ ซีซัน 2) และ Sleepless Society (สลีปเลส โซไซตี้) ซึ่งจะทยอยออกอากาศให้ได้ชมพร้อมกันทั่วโลกทาง Netflix (เน็ตฟลิกซ์) เร็วๆนี้
เอริก้า นอร์ธ Director of International Originals ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, Netflix (เน็ตฟลิกซ์) เชื่อว่า ซีรีส์ไทยจะเป็นคอนเทนต์ใหม่ให้กับตลาดทั่วโลก ขณะที่ ภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) บอกว่า นี่คือโอกาสส่งคอนเทนต์ที่เป็นฝีมือของคนไทยไปทำตลาดทั่วโลก และเป็นเรื่องน่าท้าทายในการดึงดูดความสนใจและทำให้ทุกคนทั่วโลกได้รู้จักวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยมากขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา