อุตสาหกรรมกัญชาในฝั่งตะวันตกน่าจับตามอง เพราะมีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก หลังจากที่สหรัฐอเมริกาเริ่มผ่อนปรนข้อกำหนด-กฎหมาย ทำให้อุตสาหกรรมนี้คึกคัก และอาจมีมูลค่าแซงหน้าน้ำอัดลมที่มีแนวโน้มลดลงทุกวัน
ตลาดกัญชาจะยิ่งใหญ่กว่าน้ำอัดลม
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ตลาดน้ำอัดลมในสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่มาก แต่แนวโน้มของตลาดไม่ดีนัก เพราะยอดขายร่วงลงทุกปี
- ในปี 2016 ตลาดน้ำอัดลมมียอดขายสูงถึง 78,000 ล้านดอลลาร์
- ส่วนในปี 2017 ยอดขายของตลาดน้ำอัดลมร่วงลงมาอยู่ที่ 76,400 ล้านดอลลาร์
อันที่จริงเรื่องนี้เข้าใจได้ง่ายมาก เนื่องจากตลาดน้ำอัดลมจะหดตัวลงเรื่อยๆ จากกระแสรักสุขภาพที่โตวันโตคืน
มีนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมกัญชา ออกมาบอกว่า ในปี 2030 หรืออีก 12 ปีหลังจากนี้ หากสหรัฐอเมริกาทำให้กัญชาถูกกฎหมายในทุกมลรัฐ ยอดขายกัญชาจะพุ่งไปอยู่ที่ประมาณ 75,000 ล้านดอลลาร์ และเมื่อถึงเวลานั้น มูลค่ายอดขายของกัญชาจะแซงหน้าตลาดน้ำอัดลมที่กำลังหดตัวไปทุกวันอย่างแน่นอน
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเพียงบางมลรัฐเท่านั้นที่กัญชาถูกกฎหมาย แต่เรียกได้ว่าครอบคลุมถึงเกือบ 1 ใน 4 ของประชากรแล้ว แต่ข้อมูลที่น่าสนใจคือ มลรัฐใดที่กัญชาถูกกฎหมาย จะทำให้อัตราการดื่มสุราลดลงโดยเฉลี่ย 9%
แต่ถึงอย่างนั้น ตลาดกัญชาก็ไม่น่าจะแซงตลาดสุรา-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในเร็ววัน เพราะตลาดนี้มูลค่าสูงถึง 2.1 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2017
สรุปคือ ตลาดกัญชาเป็นอีกหนึ่งในอุตสาหกรรมที่น่าจับตามอง และไม่ใช่แค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ได้ปลุกยักษ์ใหญ่อย่างแคลิฟอร์เนียที่หลบซ่อนและหลับใหลกับเรื่องกัญชามานาน จนทำให้มีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น แต่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างแคนาดาก็ก้าวไปไม่น้อยเช่นกัน เพราะหลังจากที่ทำให้กัญชาถูกกฎหมายทั่วประเทศในต้นปี 2018 ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าการแข่งขันในตลาดนี้เริ่มสูงขึ้น ทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจคึกคัก จนนักลงทุนไม่อาจละสายตาได้
ที่มา – Business Insider, Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา