ช่วงนี้อาจเป็นเคราะห์ไม่ดีของกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาอีกรอบ เพราะล่าสุดราคาหุ้นของ Amazon นั้นลงมาภายใน 1 อาทิตย์เกือบๆ 10% เลยทีเดียว
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจาก ปธน. ทรัมป์ได้ทวีตว่า Amazon อาจทำให้วงการค้าปลีกล่มสลาย แถมยังไม่จ่ายภาษีให้กับท้องถิ่นด้วย ล่าสุดทางทรัมป์ยังทวีตต่อเนื่องว่าทางบริษัทนั้นอาจทำให้ไปรษณีย์สหรัฐ หรือ USPS นั้นขาดทุน และให้ทาง Amazon จ่ายภาษีและรวมไปถึงใช้อัตราค่าส่งใหม่ที่ทำให้ USPS ไม่ขาดทุน
แน่นอนว่าทางด้านนักลงทุนมองว่าทรัมป์อาจใช้มาตรการกฏหมายต่อต้านการผูกขาดจัดการกับทาง Amazon ซึ่งทำให้ราคาหุ้นนั้นลงมาเกือบๆ 10% ในรอบอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งมุมมองของทาง BBC มองว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐคนไหนเลยที่จะเลือกโจมดีบริษัทใดบริษัทหนึ่งรุนแรงเท่าทรัมป์ทำกับ Amazon แบบนี้มาก่อน
While we are on the subject, it is reported that the U.S. Post Office will lose $1.50 on average for each package it delivers for Amazon. That amounts to Billions of Dollars. The Failing N.Y. Times reports that “the size of the company’s lobbying staff has ballooned,” and that…
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) March 31, 2018
ทรัมป์มองว่า Amazon ต้องจ่ายเงินมากกว่านี้
Bloomberg ได้รายงานว่าทางทรัมป์น่าจะได้ข้อมูลมาจากบทวิเคราะห์ของ Citi ซึ่งทางบทวิเคราะห์มีมุมมองว่าถ้าหากปรับค่าขนส่งพัสดุจะทำให้ Amazon มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นอีก 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบทวิเคราะห์คาดการณ์ว่าว่าถ้าหากทาง USPS และทาง FedEx ขึ้นราคาค่าส่งทันทีในปี 2017 ที่ผ่านมา
ทางด้านนักวิเคราะห์ของ Bernstein มองว่าสัญญาส่งพัสดุที่ทำระหว่าง USPS กับทาง Amazon นั้นไม่มีใครทราบ เพราะว่าขึ้นอยู่กับข้อตกลงแต่ละรายทำกัน โดยคาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 เหรียญสหรัฐ ซึ่งน้อยกว่าทาง UPS และทาง FedEx อยู่ถึงครึ่ง
ความเป็นความตายของทาง Amazon นั้นอยู่ที่เรื่องของการส่งสินค้า ที่ผ่านมาบริษัทพยายามพัฒนาระบบการส่งสินค้าตัวเองมาโดยตลอดเพื่อที่จะประหยัดต้นทุนลงมา และทำให้สินค้าส่งได้ไวที่สุด
แต่จริงๆ แล้ว USPS มีกำไร
คณะกรรมการของหน่วยงานกำกับดูแลทางด้านไปรษณีย์ได้ออกมากล่าวกับทาง Bloomberg ว่าสัญญาที่ทาง Amazon ทำกับทาง USPS นั้นทำให้ USPS มีกำไร ไม่ใช่ขาดทุน ซึ่งกำไรที่ได้นั้นเอาไปอุดหนุนเรื่องต้นทุนการส่งจดหมายไม่ให้ขาดทุน
ยังมีมุมมองจากคณะกรรมการว่าทาง Amazon ยังลงทุนในการส่งพัสดุเข้าระบบโดยตรงของ USPS ทำให้ประหยัดเวลาในการส่งของ และยังทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกด้วย
Jeff Bezos โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
ปธน. ทรัมป์ยังกล่าวว่าทางหนังสือพิมพ์ Washington Post ทำตัวเป็นล็อบบี้ยิสต์ให้กับทาง Amazon ซึ่ง Jeff Bezos เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ช่วงที่ผ่านมานั้นหนังสือพิมพ์ Washington Post ได้มักรายงานข่าวแง่ลบของทรัมป์เป็นอย่างมาก เช่น กรณีของความเกี่ยวข้องกับทางรัสเซียที่แทรกแซงการเลือกตั้ง หรือแม้แต่เรื่องนักแสดงภาพยนตร์ผู้ใหญ่ อ้างตัวว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทางทรัมป์
งานเข้ากลุ่มเทคโนโลยีกันถ้วนหน้า
ช่วงนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาซวยกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นกรณีฉาวของ Facebook กับเรื่องของ Cambridge Analytica หรือแม้แต่ความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับเรื่องของ Tesla Motors เกี่ยวกับอนาคตของบริษัท และล่าสุดก็เป็นทาง Amazon ซึ่งดูท่าแล้วกรณีของ Amazon กับทางทรัมป์อาจเป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องติดตามต่อ
ที่มา – CNN, Bloomberg, The Guardian, New York Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา