ถือเป็นการขยับตัวที่น่าสนใจของทั้ง LINE และบริษัทหลักทรัพย์ Nomura เพราะทั้งคู่เตรียมตั้งกิจการร่วมค้า หรือ Joint Venture เพื่อพัฒนาบริการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านแอปพลิเคชั่นแชทชั้นนำของญี่ปุ่น
พัฒนาตลาดหลักให้แข็งแกร่งกว่าเดิม
LINE เองนั้นค่อนข้างแข็งแกร่งในประเทศญี่ปุ่นมาก ผ่านผู้ใช้งานกว่า 73 ล้านราย และเพิ่มขึ้นในปีก่อนราว 10% แต่เมื่อมองโอกาสขยายในตลาดอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตลาดหลัก เช่นประเทศไทย, อินโดนีเซีย และไต้หวัน ก็ค่อนข้างยาก และทำให้ตัวเลขในตลาดต่างประเทศนั้นลดลงราว 6% ในปีก่อน
ดังนั้นการพัฒนาบริการต่างๆ เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งในตลาดหลักก็จำเป็นมากกว่าเดิม เพื่อรักษาฐานผู้ใช้ และสร้างการเติบโตได้ อย่างล่าสุดคือ LINE ทำการร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ Nomura เพื่อตั้งกิจการร่วมค้าที่ให้บริการเกี่ยวกับการซื้อขาย และให้คำปรึกษาการลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่นกับผู้ใช้ในประเทศญี่ปุ่น
โดยทั้งหมดนี้จะมีการใช้ Artificial Intelligence (AI) เข้ามาช่วยเหลือ ผ่าน Chatbot ที่จะแนะนำ และให้คำปรึกษาการลงทุนได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังใช้บริการ E-Payment ของ LINE ที่ชื่อว่า LINE Pay มาเป็นหนึ่งในเครื่องมือในการลงทุนอีกด้วย
ทั้งนี้การตั้งกิจการร่วมค้าระหว่าง LINE กับบริษัทหลักทรัพย์ Nomura จะอยู่ในสัดส่วน 51:49 ตามลำดับ และน่าจะเห็นได้ในเดือนพ.ค. 2561 ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการต่อยอดของ LINE ที่ต้องการรุกตลาดบริการทางการเงินมากขึ้น โดยลงทุนกว่า 15,000 ล้านเยน เพื่อนำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างบริการนี้
ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งหน่วยธุรกิจเกี่ยวกับบริการทางการเงินเมื่อเดือนม.ค. 2561 และรุกตลาดผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ยังตั้งเป้าให้บริการการลงทุนสำหรับบุคคลทั่วไปผ่านการร่วมมือกับผู้บริหารจัดการหลักทรัพย์ออนไลน์อย่าง Folio ภายในครึ่งหลังของปีด้วย
สรุป
การทำตลาดของ LINE ที่เกี่ยวกับบริการทางการเงินนั้น ถือเป็นการรุกตลาดที่ท้าทาย เพราะฝั่งธุรกิจธนาคาร และสถาบันการเงินอื่นๆ ต่างก็พร้อมที่จะนำเทคโนโลยีมายกระดับทั้งนั้น ทำให้ LINE เลือกที่จะพาร์ทเนอร์กับธุรกิจดั้งเดิมเหล่านี้ เพื่อเติบโตไปด้วยกัน แทนที่จะมาแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายมากกว่า
อ้างอิง // Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา