“เทสโก้ โลตัส” ซัดหมัดฮุก “โรลแบ็ค” กระหน่ำสงครามราคาค้าปลีก

เทสโก้ โลตัสจัดหนัก 520 ล้านบาท สานต่อแคมเปญโรลแบ็คดัมพ์ราคาสินค้ากว่าพันรายการ ลดครั้งใหญ่ในรอบ 15 ปี และใช้ราคาโรลแบ็คไปทุกสาขา ทุกฟอร์แมต สร้างพฤติกรรม Omni Channel

โรลแบ็ค คีย์แมนของเทสโก้ โลตัส

ตลาดค้าปลีกในเมืองไทยยังมีการแข่งขันกันร้อนระอุต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ตที่มี 2 ผู้เล่นใหญ่ในตลาดอย่าง “เทสโก้ โลตัส” และ “บิ๊กซี” ที่กระหน่ำกันด้วยสงครามราคา ลดราคาเพื่อดึงดูดลูกค้า

ทางเทสโก้ โลตัสมีแคมเปญใหญ่อย่าง “โรลแบ็ค” เป็นแคมเปญคู่บุญยาวนาน 15 ปีแล้ว ได้เริ่มทำแคมเปญครั้งแรกตั้งแต่ปี 2546 เป็นการลดราคาสินค้าบางรายการให้ต่ำกว่าคู่แข่งรายอื่นในตลาด เหมือนเป็นการการันตีให้ลูกค้าได้ว่าถ้ามาที่นี่ได้ราคาถูกกว่าที่อื่นแน่นอน ไม่ต้องเช็คราคา

การเปิดแคมเปญโรลแบ็คเป็นเหมือนการวางจุดยืดในตลาดเรื่องราคาสินค้าถูกกว่า สินค้าที่ลดราคาจะมีตั้งแต่อาหารสด อาหารแห้ง และเครื่องใช้ไฟฟ้า เฉลี่ย 100-1,000 รายการ/ปี และมีการจัดเฉลี่ยปีละ 3-4 ครั้ง

แต่เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งยังมีในส่วนของอีคอมเมิร์ซเข้ามามีบทบาทอย่างหนัก ทำให้เทสโก้ โลตัสลงทุนหนักมากขึ้น ในปี 2559 ได้จัดหนักด้วยการลดราคาสินค้าจำเป็นในกลุ่มแม่และเด็ก อาหารสด ขนม ข้าวสาร และสินค้าทำความสะอาด ส่วนในปี 2560 ที่ผานมาได้เน้นอาหารสดเป็นพิเศษ เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด

และในปีนี้ก็ยิ่งลงทุนหนักมากขึ้นเพื่อรับกับการแข่งขันที่มีต่อเนื่อง เทสโก้ โลตัสควักเงินลงทุนในช่วงไตรมาสแรกของปีกับโรลแบ็ค 520 ล้านบาท หมุนราคาลดลง 40% ในสินค้ากว่า 1,000 รายการ

มาร์ค รัฟลีย์ ประธานกรรมการฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า

“ในช่วงที่ผ่านมาพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ทำให้ราคายังเป็นปัจจัยอันดับแรกที่ลูกค้าใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ซึ่งปกติเรามีจัดแคมเปญโรลแบ็คปีละ 3-4 ครั้งอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละปีจะดูว่าลูกค้ากังวลเรื่องอะไร ปีนี้เลยเน้นทั้งอาหารสด และอาหารแห้ง”

โรลแบ็คทุกฟอร์แมตร้านค้า ช่วยสร้างลอยัลตี้

โดยปกติแล้วแคมเปญโรลแบ็คจะมีแค่ที่สาขาใหญ่ที่เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ต แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่ขยายดรลแบ็คไปทุกฟอร์แมตร้านค้า และทุกสาขาทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ต, ตลาด, เทสโก้ โลตัส เอ็กซเพรส รวมถึงช่องทางออนไลน์ด้วย เพราะพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ 40% เป็น Cross Format Shopper คือซื้อสินค้าครบทุกร้านค้า ไม่ได้ซื้อแค่ร้านเดียว

“พฤติกรรมลูกค้ายุคนี้มีความหลากหลาย ซึ่งการซื้อข้ามฟอร์แมตเป็นเรื่องดี ยิ่งช็อปหลายช่องทางยิ่งเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้น ยิ่งมีสาขาเยอะ ลุกค้าเข้าเยอะ ทำให้ลุกค้ามีลอยัลตี้ต่อเราสูง การเพิ่มแคมเ)ญโรลแบ็คเข้าไปทุกฟอร์แมตยิ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น”

ปัจจุบันเทสโก้ โลตัสมีลูกค้าใช้บริการราว 15 ล้านคน/สัปดาห์ มีจำนวนสาขารวม 1,950 สาขา แบ่งเป็นดีพาร์ทเมนต์ สโตร์ 33 สาขา เอ็กซ์เพรส 1,574 สาขา, เอ็กซ์ตร้า 15 สาขา, ไฮเปอร์มาร์เก็ต 146 สาขา และตลาด 182 สาขา

สรุป

แคมเปญโรลแบ็คกลายเป็นหมัดฮุกที่เทสโก้ โลตัสใช้ในการสู้ศึกค้าปลีกอยู่ตลอด ได้เห็นเลเวลในการลงทุนสูงมากขึ้น เพราะการแข่งขันสูงขึ้น แต่ก็ได้เห็นทิศทางอันดีสำหรับตลาดค้าปลีกในไทยที่ยังมีโอกาสไปได้เรื่อยๆ เพราะพฤติกรรมคนไทยยังนิยมมาที่สโตร์อยู่ ทำให้ทุกคนต่างลงมาเล่นเรื่องราคาเพื่อดึงดูดลูกค้าให้มากที่สุด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา