ขอให้ลืมภาพ OfficeMate ที่ขายเพียงแค่เครื่องเขียนอุปกรณ์สำนักงานไปได้เลย เพราะต่อจากวันนี้ไปจะกลายเป็นซัพพลายเออร์ของทุกอุตสาหกรรม ปี 2018 เริ่มต้นที่หมวดโรงงาน โรงแรม-อาหาร และยา
ภาพรวมธุรกิจ OfficeMate ปี 2017
หลังจากที่ปี 2017 OfficeMate เปลี่ยนแนวทางจากการขายอุปกรณ์เครื่องเขียนสำนักงานให้กับออฟฟิศทั่วไป มาเป็น การเจาะตลาดกลุ่มธุรกิจ เน้นทำธุรกิจแบบ B2B ทำให้ปีที่ผ่านมามีรายได้เติบโต 7% คิดเป็นเงิน 7,521 ล้านบาท ถือว่าเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนการขยายสาขาเพิ่มไปทั้งหมด 5 สาขา ทำให้ขณะนี้ OfficeMate มีสาขาทั้งหมด 68 แห่งทั่วประเทศ
การเจาะกลุ่มธุรกิจในปีที่ผ่านมารวมถึงการทำตลาดกับกลุ่ม SME ซึ่งทาง OfficeMate บอกว่าฐานลูกค้าที่เป็น SME โตขึ้น 10% และถ้าคิดตามตัวเลขที่ระบุว่า ประเทศไทยมี SME อยู่ประมาณ 2-3 ล้านราย ในจำนวนนี้ประมาณ 5 แสนรายเป็นลูกค้าของ OfficeMate ทั้งหมด
ในด้านออนไลน์ของปี 2017 ยอดขายผ่านอีคอมเมิร์ซของ OfficeMate โตขึ้น 46% ยอดขาย 1,200 ล้านบาท หรือเรียกว่า คิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมด และที่สำคัญการขายผ่านออนไลน์หรือ Omni-Channal ของ OfficeMate ยังเติบโตได้อีกมาก ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเชื่อว่า รายได้จากส่วนออนไลน์จะแซงส่วนออฟไลน์อย่างแน่นอน
ในด้านโลจิสติกส์ของปี 2017 OfficeMate ได้จับมือกับ KERRY EXPRESS ผลปรากฏว่า ทำให้ลูกค้ารายย่อยโดยเฉพาะ SME และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นจากเดิมประมาณ 10% ต่อเดือน
จาก ขายอุปกรณ์สำนักงาน สู่ Supplier ธุรกิจต่างๆ เริ่มต้นขึ้นแล้ว
วรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) บอกว่า “หลังจากที่บริษัทเปลี่ยนการทำธุรกิจมาเป็น Supplier ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เราต้องการเป็นผู้ชนะในการทำ B2B กับทุกกลุ่มธุรกิจ”
- ในปี 2018 OfficeMate จึงขอต่อยอดกลยุทธ์เจาะกลุ่มธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น โดยจะขอเป็น Supplier ให้กับธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม ในปีนี้จึงขอเริ่มต้นที่ 3 อุตสาหกรรม ได้แก่
- Factory Supplies : อุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้อุปโภคสำหรับธุรกิจโรงงานและอุตสาหกรรม
2. HORECA Supplies : เครื่องมือเครื่องใช้อุปโภคและอุปกรณ์เพื่อการประกอบธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร
3. Medical Supplies & Equipment : กลุ่มสินค้าที่เป็นประเภทเครื่องมือเครื่องใช้อุปโภคสำหรับสถานพยาบาล สถานบำบัด และคลินิกต่างๆ
ส่วนเหตุผลที่ต้องเริ่มจาก 3 อุตสาหกรรมนี้ วรวุฒิ บอกว่า “เพราะเราเห็นว่ายังไม่มีผู้เล่นในตลาดที่ครองตลาดได้ทั้งหมด เราเห็นโอกาส และเราต้องการเป็นใหญ่ ครั้งนี้มันเหมือนเป็นการแบ่งย่อยบริษัทอีก 3 บริษัท คือที่เราจะเป็น Supplier ให้กับอุตสาหกรรมโรงงาน อุตสาหกรรมร้านอาหารและโรงแรม รวมถึงอุตสาหกรรมคลินิกและโรงพยาบาล”
- อธิบายให้เห็นภาพมากขึ้นคือ ให้ลืมภาพ OfficeMate ที่ขายเครื่องเขียนอุปกรณ์สำนักงานไปได้เลย เพราะนับตั้งแต่วันนี้ไป OfficeMate กำลังแตกไลน์ธุรกิจให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยเริ่มต้นจาก 3 อุตสาหกรรมดังที่ได้กล่าวไป
สำหรับจำนวนสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น จะเพิ่มตามความต้องการของธุรกิจในอุตสาหกรรมที่ลงเล่น ได้แก่
- สินค้าหมวดโรงงานที่แต่เดิมมี 1,000 ชิ้น จะเพิ่มเป็น 10,000 ชิ้น ครอบคลุมความต้องการของโรงงาน อุตสาหกรรม และธุรกิจก่อสร้าง จากคู่ค้ากว่า 80 ราย รวมถึงมีแบรนด์ชั้นนำมากกว่า 140 แบรนด์ เช่น เครื่องมือช่าง อุปกรณ์ซ่อมบำรุง อุปกรณ์จราจรความปลอดภัยทั้งในและนอกอาคาร เป็นต้น
- สินค้าหมวดโรงแรมและอาหาร จะมีทั้งหมด 5,000 ชิ้น โดยจะมีตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องบันทึกเงินสด เครื่องชงกาแฟ เครื่องทำความร้อน ชุดเครื่องครัว ซึ่งมีแบรนด์ที่จัดจำหน่ายมากกว่า 150 แบรนด์
- สินค้าหมวดคลินิกและโรงพยาบาล จะมีทั้งหมด 5,000 ชิ้น สินค้าจะครอบคลุมตั้งแต่เครื่องมือและอุปกรณ์ในสถานพยาบาล คลินิก ไปจนถึงโรงพยาบาล เช่น เครื่องวัดความดัน อุปกรณ์ในห้องพักผู้ป่วย หูฟังแพทย์ เวชภัณฑ์ ถุงมือแพทย์ หน้ากากอนามัย อุปกรณ์ทำแผล สำลี กระดาษ และอุปกรณ์ทำความสะอาด
จากแผนธุรกิจที่ว่ามานี้ วิลาวรรณ ฤกษ์เกรียงไกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจออฟฟิศเมท ระบุว่า “รายได้ในปี 2018 ของ OfficeMate ตั้งเป้าไว้ที่ 8,600 ล้านบาท โดยจะเติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 15% ส่วนช่องทางออนไลน์ตั้งเป้าโตมากกว่า 40% มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาท”
เป้าหมายของ OfficeMate คือเป็น Supplier ของทุกสรรพสิ่ง
การพยายามก้าวเข้าสู่ซัพพลายเออร์ของทุกสรรพสิ่งของ OfficeMate วรวุฒิ เน้นย้ำว่า สิ่งที่ทำให้ OfficeMate สามารถคิดใหญ่ ทำใหญ่ได้ขนาดนี้ เป็นเพราะเพราะคลังสินค้าแห่งใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ โดยตั้งอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และได้ลงทุนไปกว่า 1,000 ล้านบาท จึงทำให้ขณะนี้ OfficeMate มีกำลังในจัดการสินค้าเพิ่มขึ้นอีกถึง 6 เท่า
- ผู้บริหาร COL บอกว่า คลังสินค้าแห่งนี้มีศักยภาพสูง เพราะใช้ระบบอัติโนมัติควบคู่ไปกับคน และที่สำคัญในอนาคตยังสามารถขยายพื้นที่คลังสินค้าออกไปได้อีก รวมถึงพื้นรอบข้างเป็นของทางบริษัทแม่คือเซ็นทรัล (Central) รวมๆ แล้วไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ ในส่วนนี้ศักยภาพการแข่งขันในอนาคตถือว่าเหลือเฟือ
ก้าวต่อไปหลังจากนี้ของ OfficeMate จะเป็นการขยายไปสู่อุตสาหกรรมอื่น แต่ยังไม่บอกว่าจะเป็นประเภทไหน เพราะขอลุยทำ 3 อุตสาหกรรมที่แถลงข่าวนี้ให้ประสบความสำเร็จเสียก่อน
“ในท้ายที่สุด ทุกธุรกิจต้องเข้ามาใช้บริการของ OfficeMate ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมอะไร คุณต้องใช้บริการของเรา เพราะสะดวกสบาย ตรวจสอบได้ โปร่งใส แถมยังเทียบเคียงราคาและคุณภาพกับรายอื่นๆ ในตลาดได้อย่างแม่นยำที่สุดด้วย”
ติดตามโมเดลแฟรนไชส์ปลายไตรมาสที่ 2 ปี 2018
การจะเป็น Supplier ในทุกสรรพสิ่งของ OfficeMate จึงจำเป็นต้องทำให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ด้วย ขณะนี้ OfficeMate ครอบคุลมเพียงแค่ 22 จังหวัดทั่วประเทศเท่านั้น (แต่ถ้านับเรื่องของการส่งของออนไลน์ OfficeMate สามารถส่งสินค้าได้ทั่วประเทศ)
ดังนั้น โมเดลที่เราจะได้เห็น OfficeMate ลงไปเล่นในเร็วๆ นี้คือ “การทำแฟรนไชส์ร้าน OfficeMate” ซึ่งเอาเข้าจริง ทางบริษัทได้เกริ่นมาสักพักแล้ว แต่ที่เรายังไม่ได้เห็นกันเป็นรูปธรรม เพราะในขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลให้รอบด้าน และเตรียมความพร้อมให้ได้มากที่สุด
- Brand Inside เชื่อว่าช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ จะได้เห็นความเคลื่อนไหวของโมเดลแฟรนไชส์ของ OfficeMate อย่างแน่นอน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา