การนำหุ่นยนต์เข้ามาประยุกต์ใช้นอกโรงงานอุตสาหกรรมเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสิ่งนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ตำแหน่งที่ทำงานซ้ำซาก เช่นงานในร้าน Fast-Food และเหตุนี้เอง Flippy จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อยกระดับการย่างเบอร์เกอร์
ทางเลือกที่ต้องลงทุน 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ
Flippy ถูกพัฒนาขึ้นโดย Miso Robotics เพื่อทำหน้าที่ย่างเบอร์เกอร์ในร้านอาหาร Fast-Food มีเทคโนโลยี Image Recognition และแขนกลในการวิเคราะห์ความสุกของเบอร์เกอร์ กับการกลับเนื้อเบอร์เกอร์ตามลำดับ ต้นทุน 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัว (ราว 1.9 ล้านบาท) มีค่าใช้จ่าย 12,000 ดอลลาร์/ปี (ราว 3.7 แสนบาท)
สามารถย่างเบอร์เกอร์ได้ 2,000 ชิ้น/วัน ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับปกติ แต่การใช้หุ่นยนต์นั้นช่วยให้ชิ้นเนื้อที่ออกมามีคุณภาพแน่นอน แถมยังทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันการย่างยังทำได้ค่อนข้างช้า ทำให้ทางร้าน Cali Burger ที่ใช้งานอยู่ต้องกดสวิชท์ปิดเครื่องไปก่อน เพราะเกรงว่าจะรับการย่างจำนวนมากๆ ไม่ไหว
Anthony Lomelino ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของ Cali Burger ตอนนี้ข่าวว่าร้านเราใช้หุ่นยนต์ย่างเบอร์เกอร์นั้นแพร่สะพัดออกไปทั่วประเทศ ทำให้มีโอกาสที่ร้านจะมีลูกค้าเข้ามาเยอะกว่าเดิม และถ้าเราไม่ปิดหุ่นยนต์ ก็อาจเกิดปัญหาในช่วงเวลา Peak ก็เป็นได้
“แม้ Flippy จะทำงานได้ค่อนข้างดี แต่เราขอปิดเขาไว้ก่อนดีกว่าหลังทำงานมาไม่ถึง 1 สัปดาห์ เพื่อให้ฝั่งผู้พัฒนาไปอัพเกรดให้ตัวหุ่นยนต์สามารถทำงานได้เร็วกว่าเดิม เพื่อรองรับการไหลมาของลูกค้าที่มากขึ้น และหากสำเร็จ เราก็มีแผนนำหุ่นยนต์ Flippy ไปใช้ในอีก 50 สาขาทั่วประเทศ”
ขณะเดียวกันการใช้งานหุ่ยนต์ยังช่วยให้การสอนพนักงานใหม่ภายในร้านทำได้เร็วกว่าเดิม เพราะอุตสาหกรรม Fast-Food มีการไหลออกของพนักงานจำนวนมาก และการให้พนักงานใหม่เรียนรู้วิธีการย่างเบอร์เกอร์จาก Flippy ก็จะเสียเวลา และคนน้อยกว่าให้คนเก่าๆ มาสอน แถมคนเก่าก็ยังไปทำหน้าที่อื่นให้กับร้านได้อีกด้วย
สรุป
แม้ Flippy จะไม่ใช่ที่สุดในตอนนี้ แต่หากอัพเกรดให้ทำงานได้เร็วกว่าเดิม มันก็มีโอกาสนำไปพัฒนาใช้กับตำแหน่งงานอื่นๆ ที่ทำงานซ้ำซากได้เหมือนกัน และถึงเวลานั้นมนุษย์ก็คงต้องพัฒนาทักษะการทำงานที่มันยากกว่าเดิมให้ได้ เพื่อไปหาตำแหน่งงานอื่นๆ ในการดำรงชีวิตอยู่
อ้างอิง // BBC, Miso Robotics
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา