กู้เงินผ่านมือถือ SCB EASY Digital Lending สินเชื่อส่วนบุคคลที่ปลายนิ้ว

การแข่งขันในภาคธนาคารยังคงรุนแรงต่อเนื่อง จากบริการพร้อมเพย์ จ่ายเงิน QR Payment จนล่าสดธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ขยายบริการมาสู่ สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ Personal Loan ด้วยความเชื่อที่ว่า ทุกคนมีโอกาสเดือดร้อนเรื่องเงินได้ตลอดเวลา และธนาคารสามารถให้บริการได้

ภาพจาก Shutterstock

SCB EASY Digital Lending สินเชื่อผ่านมือถือรายแรกในไทย

ธนา เธียรอัจฉริยะ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส Chief Marketing Officer ของ SCB บอกว่า ปีนี้คือปีของ Machine Learning และ A.I. ที่ทุกอุตสาหกรรมจะนำเข้ามาทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้นโดยการให้บริการสิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน จุดเริ่มต้นของ SCB คือ การนำมาวิเคราะห์เพื่อให้สินเชื่อส่วนบุคคล

สำหรับตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล คาดว่ามีมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านบาทต่อปี เติบโตประมาณ 5% ขณะที่ SCB ให้สินเชื่อส่วนบุคคลปีที่ผ่านมาประมาณ 40,000 ล้านบาท แต่ปีนี้ เมื่อนำระบบ Machine Learning มาใช้ ตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลที่ 70,000 ล้านบาท เพราะเชื่อว่า…

  1. Machine Learning และ A.I. ช่วยวิเคราะห์เพื่อการให้สินเชื่อได้มีประสิทธิภาพ
  2. ฐานลูกค้าทั่วไปจาก SCB EASY App กว่า 6 ล้านรายปัจจุบัน ช่วยให้การเข้าถึงระหว่างธนาคารและลูกค้าสะดวกขึ้น
  3. ฐานร้านค้าจากการใช้งาน “แม่มณี” แอพ QR Payment กว่า 1.5 แสนราย มีเป้า 1 ล้านรายในปีนี้ ทำให้ SCB ใกล้ชิดกับร้านค้ามากขึ้น

A.I. วิเคราะห์พฤติกรรม ดูธุรกรรม มองหา “วินัย”

การใช้ A.I. มาวิเคราะห์ลูกค้าเพื่อให้สินเชื่อส่วนบุคคล มีหลักการพิจารณามากขึ้น สิ่งที่เป็นพื้นฐานคือ หลักฐานทางการเงิน รายได้ เพื่อกำหนดวงเงินในการให้สินเชื่อ แต่สิ่งที่ A.I. วิเคราะห์เพิ่มเติมคือ “พฤติกรรม” ดังนั้น SCB EASY Digital Lending จะใช้พฤติกรรมของลูกค้า SCB ที่ใช้งานผ่านแอพ มีบัญชี SCB ช่วยให้เห็นพฤติกรรมต่างๆ ได้ดีขึ้น

นอกจากพฤติกรรมแล้ว “ธุรกรรม” ทางการเงินก็เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งทั้งหมดจะนำไปสู่ “วินัยและความรับผิดชอบ” ซึ่งมีส่วนสำคัญมากในการให้สินเชื่อ บางคนอาจจะมีรายได้มาก แต่ถ้าขาดวินัยและความรับผิดชอบ ก็อาจมีข้อจำกัดในการให้สินเชื่อได้เช่นกัน

สรุปว่า A.I. จะช่วยให้การให้สินเชื่อส่วนบุคคล มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แค่ปลายนิ้วคลิกผ่านแอพ ก็มีโอกาสได้กู้เงิน

อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดปฏิบัติการ ผู้บริหารสูงสุด Retail Payments และ Retail Products ของ SCB บอกว่า สำหรับเป้าหมายของ SCB คือให้สินเชื่อส่วนบุคคลเติบโตขึ้นจาก 40,000 ล้านเป็น 70,000 ล้านบาท โดยส่วนที่เติบโตขึ้น 30,000 ล้านบาทนั้น 1 ใน 3 จะมาจากมือถือ โดยแบ่งได้ 2 ส่วน

  1. กลุ่ม Pre Qualify เป็นกลุ่มลูกค้าที่ผ่านการวิเคราะห์ พฤติกรรมและธุรกรรม มีเครดิตที่ดีอยู่แล้ว สามารถให้สินเชื่อได้เลย ภายใน 3 นาทีเงินเข้าบัญชี ไม่ต้องรอนาน
  2. กลุ่มที่ข้อมูลไม่เพียงพอ หลังจากยื่นขอสินเชื่อส่วนบุคคล จะมีพนักงานติดต่อกลับภายในประมาณ 1 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง เพราะรู้ว่าทุกคนมีโอกาสต้องการเงินด่วน รวมถึงสินเชื่อรถและบ้านด้วย

“A.I. ทำให้เข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น สามารถติดต่อขอสินเชื่อส่วนบุคคลได้ตลอดเวลา สำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ ถ้าติดต่อมาตอนดึกๆ หรือเช้าๆ ก็จะมีพนักงานดูแล และพร้อมอนุมัติเงินให้ตามกฎข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทย”

นอกจากการพัฒนาระบบผ่านมือถือแล้ว ได้พัฒนาระบบในสาขาธนาคารสำหรับคนที่ต้องการไปพบพนักงาน โดยกระบวนการจะใช้เวลาดำเนินการภายใน 30 นาที

Machine Learning ทำให้ธนาคารนำเสนอสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันที แม้ลูกค้าอาจจะรู้ตัว หรือ ไม่รู้ตัวก็ได้ เช่น ธนาคารรู้ว่าลูกค้าจะถูกตัดค่าใช้จ่ายประจำเดือนในอีก 3 วันข้างหน้า แต่ในวันนี้ลูกค้ามีเงินในบัญชีไม่พอชำระ ธนาคารก็จะนำเสนอสินเชื่อที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าทันที

นี่คือการออกแบบบริการด้านสินเชื่อผ่านมือถือแบบ Straight Through Process (STP) ซึ่งสินเชื่อที่เหมาะ คือ สินเชื่อบุคคล Speedy Loan บัตรกดเงินสด Speedy Cash บัตรเครดิต และรูปแบบ Hybrid (Online to Offline)

 

สรุป

ถือเป็นอีกก้าวที่ SCB นำ Machine Learning และ A.I. เข้ามาใช้พัฒนาบริการประเภทสินเชื่อ และสามารถให้สินเชื่อบุคคลผ่านมือถือได้เป็นครั้งแรกในไทย ต้องรอดูว่าประสิทธิภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ และ ฐานข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่ จะช่วยให้ SCB ให้สินเชื่อได้เติบโตขึ้นตามเป้าหรือไม่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา