GoPro แบรนด์กล้อง Action Camera ชื่อดังออกมายอมรับว่ากำลังมีปัญหา โดยได้ประกาศแผนลดพนักงานลง 20% โดยคาดว่าจะมีการเลย์ออฟ พนักงนอย่างน้อย 250 คน ทำให้ GoPro จะเหลือพนักงานต่ำกว่า 1,000 คน รวมถึงมีนโยบายเลิกบุกตลาด Drone ด้วย
นอกจากการลดพนักงานแล้ว ตัว Nick Woodman ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง ยังได้ปรับลดค่าตอบแทนของตัวเองลงเหลือ 1 ดอลลาร์ ในปี 2018
นี่ถือเป็นแผนฟื้นฟูธุรกิจของ GoPro ในปี 2018
Action Camera ไม่ดี Drone ยิ่งแย่
ก่อนหน้านี้ GoPro ต้องเผชิญกับความยากลำบากในทุกด้าน ทั้งธุรกิจหลักอย่างกล้อง Action Camera ที่มีความต้องการในตลาดลดลง ซึ่ง GoPro ได้หั่นราคารุ่น Hero5 Black ลงเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ลง 100 ดอลลาร์
ล่าสุด ได้ลดราคารุ่น Hero6 Black ลงเช่นเดียวกัน (จาก 499 เหลือ 399 ดอลลาร์) โดยหวังว่าจะช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคกลับมาสนใจ และเพิ่มยอดขายในเดือน ม.ค. นี้ได้
ส่วนธุรกิจ Drone จากการทำธุรกิจที่ผ่านมาภายใต้แบรนด์ Karma แม้จะมียอดขายที่ดีแต่กลับมีผลกำไรต่ำ เนื่องจากการแข่งขันในตลาดอย่างหนักหน่วงจากหลายแบรนด์ในตลาด และยังมีการควบคุมการใช้งานที่น่าจะมีผลต่อตลาดในอนาคต ดังนั้นเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายแต่เนิ่นๆ จึงตัดสินใจยุติการทำธุรกิจ Drone แต่ยังคงให้บริการหลังการขาย Karma อยู่เช่นเดิม
จากแผนทั้งหมด GoPro เชื่อว่าจะช่วยให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายลง 80 ล้านดอลลาร์เทียบกับปี 2560 และน่าจะมีรายจ่ายดำเนินการต่ำกว่า 400 ล้านดอลลาร์
กลับมามีกำไรได้อีกครั้งในครึ่งหลังของปีนี้
สรุป
เดิม GoPro เป็น Action Camera ที่ได้รับความนิยมสูงมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด แต่ความต้องการในตลาดมีอยู่ไม่มากนัก ประกอบกับการมีคู่แข่ง โดยเฉพาะแบรนด์จากจีน ที่ขายในราคาต่ำกว่า และให้ออปชั่นครบเข้ามาเป็นคู่แข่ง ทำให้สถานการณ์แย่ลง และการจะขยายไปธุรกิจอื่นๆ ก็ยากลำบาก ถือว่าปีนี้ไม่ง่ายสำหรับ GoPro แน่นอน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา