Brand Inside เคยเสนอข่าวเรื่องของศึก ETF ที่เริ่มมีการตัดราคาค่าดูและจัดการ (Management Fee) ไปแล้ว แต่ตอนนี้ปัญหาใหญ่ของผู้จัดการกองทุนคือยิ่ง ETF ลดราคาค่าธรรมเนียมมากเท่าไหร่ ผู้จัดการกองทุนที่เป็นแนว Active Manager ยิ่งได้รับผลตอบแทนน้อยลง
แม้ว่าปี 2017 ที่ผ่านมา ผู้จัดการกองทุนในหลายๆ ประเทศยังยิ้มออกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่ยังมีเม็ดเงินไหลเข้าอยู่โดยข้อมูลจาก Goldman Sachs ปี 2017 เม็ดเงินไหลเข้ากองทุนแบบ Active ประมาณ 153,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่าจะน้อยกว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้า ETF แต่ในอนาคตของผู้จัดการกองทุนแบบ Active ในสหรัฐถือว่ามีความเสี่ยงพอสมควร เพราะว่า ETF หลายๆ กองทุนกำลังไล่ตัดราคาค่าธรรมเนียมบริหารจัดการลง บางกองทุนลดค่าธรรมเนียมบริหารจัดการเหลือแค่ 0.03% ต่อปีเท่านั้น ทำให้ความเดือดร้อนตกกับผู้จัดการกองทุนแบบ Active ทันที
ศึกตัดราคาค่าธรรมเนียม ETF จะกดดันค่าธรรมเนียมกองทุนแบบ Active
Todd Rosenbluth นักวิเคราะห์จาก CFRA ได้กล่าวว่าปีนี้ค่าธรรมเนียมบริหารจัดการของ ETF หลายๆ กองทุนจะยังตัดราคาต่อไปเพื่อเรียกเม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามา และผลกระทบนี้จะทำให้กองทุนแบบ Active ต้องลดค่าธรรมเนียมลงมากอีก เพราะว่าไม่งั้นแล้วจะยิ่งโดน ETF กินส่วนแบ่งเข้าไปอีก โดยปัจจุบันค่าธรรมเนียมบริหารจัดการของกองทุนในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ประมาณ 1.13% ต่อปี ซึ่งลดลงจาก 1.44% ทำให้รายได้ต่อปีของผู้จัดการกองทุนแนว Active ย่อมลดลงแน่นอน แถมยังโดนกดดันจากสองทางคือต้องลดค่าธรรมเนียมและยังต้องทำผลงานกองทุนให้ดีเพื่อเรียกเม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามา
อนาคตผู้จัดการกองทุนแนว Active ในประเทศไทยก็หนีไม่พ้น
ผู้เขียนคาดการณ์ไว้ว่าถ้าหากประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคตลาดทุนยุคใหม่ (ตลาดแข่งขันสมบูรณ์) การที่กองทุนแนว Active ในประเทศไทยจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแพงๆ ระดับปีละ 1.8-2% ต่อปีในอนาคตน่าจะเป็นเรื่องที่ยากเข้าไปทุกที เพราะว่าเทรนด์ทั่วโลกกำลังจะเปลี่ยนไป กองทุนแนว Passive กำลังมาแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ค่าธรรมเนียมบริหารต่อปีที่น่าสนใจ และอีกเรื่องที่สำคัญคือการที่นักลงทุนไทยสามารถเริ่มลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศอื่นๆ อาจเริ่มเป็นทางเลือกใหม่ๆ และรวมไปถึงบริษัทหลักทรัพย์ที่มีค่าคอมมิชชั่นที่ถูกลงทำให้นักลงทุนในประเทศไทยมีทางเลือกมากขึ้นในการลงทุนจะทำให้แรงกดดันนี้จะเริ่มเพิ่มขึ้นต่อผู้จัดการกองทุนในประเทศไทย ในระยะกลางถึงยาว
ที่มา – Financial Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา