ก่อนจะเข้าสู่ปี 2018 ปลายปีนี้ก็มีอะไรให้น่าตื่นเต้นเยอะเหมือนกัน เมื่อ Google ตีพิมพ์วิจัยในกลางเดือนที่ผ่านมาว่า ได้พัฒนา AI ตัวใหม่จนสามารถพูดได้คล่องและเนียน จนแทบแยกไม่ออกว่าเสียงไหนของคนหรือหุ่นยนต์ ลองไปฟังกัน
เมื่อเราไม่สามารถแยกการพูดของ AI กับมนุษย์ได้อีกต่อไป
Google ตีพิมพ์บทความวิจัยใหม่ในช่วงกลางเดือนธันวาคมปี 2017 ระบุว่า ได้พัฒนา AI ตัวใหม่สำเร็จชื่อว่า Tacotron 2 โดยเป็น AI ที่อ้างว่าสามารถพูดได้ใกล้เคียงกับมนุษย์มาก จนแทบจะแยกไม่ออก
ถ้าอยากลองฟังเข้าไปที่นี่ เลื่อนลงมาเล็กน้อย จะพบกับไฟล์เสียงที่พูดประโยคเดียวกัน 2 ไฟล์ ลองกดฟัง เสียงทั้ง 2 ไฟล์อาจฟังดูคล้ายกันมาก แต่ให้จำไว้ว่า หนึ่งในเสียงนั้นมาจากมนุษย์และหุ่นยนต์ AI
เก่งกว่า WaveNet ของ Google ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเสียอีก
นักวิจัยของ Google ให้ความเห็นว่า Tacotron 2 สามารถออกเสียงคำหรือชื่อยากๆ ได้อย่างสบาย รวมถึงการอ่านวรรคคำที่แนบเนียนจนใกล้เคียงกับมนุษย์มาก และในภาษาอังกฤษ เมื่อมีการใส่อักษรตัวใหญ่เข้าไป AI ตัวนี้สามารถอ่านออกเสียงแบบเน้นหนักได้อีกด้วย ต้องบอกว่า Tacotron 2 เก่งกว่า WaveNet ที่เป็น AI Assistant ตัวก่อนหน้าของ Google เสียอีก แต่คงต้องรอให้พร้อมสำหรับการผลิตในเชิงธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม Tacotron 2 มีข้อจำกัดคือยังเป็นเสียงของผู้หญิงเท่านั้น หลังจากนี้ Google คงต้องอัพเกรดและฝึกฝน AI ให้พูดด้วยเสียงของผู้ชายและในแบบอื่นๆ ต่อไปด้วยในอนาคต
สรุป : วงการธุรกิจเตรียมตัวรับมือให้ดี ต่อจากนี้เรื่อง “เสียง” จะแข่งเข้มข้นขึ้น
การสั่งงานด้วยเสียงเป็นเทรนด์ที่จะมาในปี 2018 อย่างแน่นอน เพราะหลายบริษัทวิจัยคาดการณ์ อย่าง Gartner เองก็บอกไว้ว่าในปีหน้า การสั่งงานด้วยเสียงจะเป็นเทรนด์ที่ถูกนำมาใช้งานจริง สำหรับภาคธุรกิจ เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาในรูปแบบของการสั่งงานด้วยเสียงและโต้ตอบกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
วงการที่จะถูกนำมาใช้เป็นวงการแรกๆ คงหนีไม่พ้นวงการธุรกิจที่ต้องจับกระแสไลฟ์สไตล์ อย่างเช่น ค้าปลีก ที่ยุคนี้ก็นำเอา Voice & Visual Search มาใช้งานบ้างแล้ว หรืออย่างวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้นำเอา IoT เข้ามาใช้อย่างกว้างขวาง
การพูดได้แนบเนียนคล้ายมนุษย์ของ Tacotron 2 จะเป็นการแรงขับที่สำคัญที่ทำให้รายอื่นๆ ต้องพัฒนาตาม และแน่นอนเราจะได้เห็นการแข่งขันในภาคส่วนไอทีและธุรกิจในปี 2018 (และต่อจากนั้นด้วย) ที่จะเข้มข้นมากขึ้น
ตอนนี้ก็หวังแต่ว่า มันจะออกมาเป็นภาษาไทยได้เมื่อไหร่กัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา