เพราะเชียงใหม่ จะไม่ใช่แค่เมืองท่องเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้น Chiang Mai Marriott Hotel เล็งเห็นศักยภาพและการเติบโตของเมืองเชียงใหม่ เปิดตัว “Plaii Ballroom” (พลาย บอลรูม) และ “Plaii Hybrid Meetings & Entertainment Complex” (พลาย ไฮบริด มีตติ้ง แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์) ศูนย์การจัดงานและเอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรแห่งใหม่ใจกลางเมือง มุ่งสู่ MICE แห่งใหม่ของไทย
ราจัต แชตเทอร์จี (Rajat Chatterjee) ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเชียงใหม่แมริออท (Chiang Mai Marriott Hotel) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรม MICE ของไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง จากการเข้ามาสนับสนุนโดยตรงจากหน่วยงานภาครัฐอย่าง สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เนื่องด้วยอุตสาหกรรม MICE ใช้งบประมาณจากภาครัฐและเอกชนในแต่ละครั้งมูลค่าสูง ทั้งการเดินทาง ที่พัก การท่องเที่ยว การจัดนิทรรศการ การจัดการประชุม เราในฐานะโรงแรมของเครือ แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ภายใต้การบริหารงานโดยแบรนด์ แมริออท โฮเทลส์ จึงเล็งเห็นศักยภาพของเมืองเชียงใหม่ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน 5 เมือง MICE ชั้นนำของไทย ที่มีโครงสร้างพื้นฐาน การบริการ การคมนาคม สถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก จึงได้พัฒนาพื้นที่รอบโรงแรมเชียงใหม่แมริออท ให้เป็นศูนย์การจัดงานและเอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรแห่งใหม่ ที่จะรองรับและยกระดับเมืองเชียงใหม่ ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้าน MICE ที่ล้ำสมัยที่สุดในภาคเหนือของประเทศไทย
สร้างประสบการณ์ Immersive ด้วยจอ LED 360 องศาครั้งแรกในไทย
ราจัต ภูมิใจนำเสนอ Plaii Ballroom (พลาย บอลรูม) ห้องประชุมและจัดเลี้ยงบนพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตร ที่ประกอบไปด้วยจอ LED ขนาดใหญ่รอบทิศทางแบบไร้รอยต่อความยาว 84 เมตร สูง 6.24 เมตร มอบประสบการณ์ Immersive ที่แปลกใหม่ และยังถือเป็นที่แรกในไทยอีกด้วย ซึ่งห้องดังกล่าว ถือเป็นไฮไลท์ของศูนย์การประชุมฯ ที่จะส่งเสริมประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น ในงานเปิดตัวสินค้า การประชุมระดับโลก งานแสดงความคิดสร้างสรรค์ งานแต่งงาน หรือแม้กระทั่งงานจัดเลี้ยงสุดพิเศษ
นอกจากนี้ อาคารหลักสูงสามชั้นที่เชื่อมต่อโรงแรม ยังเป็นที่ตั้งของ Plaii Complex (พลาย คอมเพล็กซ์) โดยชื่อ “Plaii – พลาย” ได้รับแรงบันดาลใจจากความสง่างามและความสำคัญทางวัฒนธรรมของ “ช้างพลาย” สัตว์มงคลของไทย อันเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติภูมิ ความแข็งแกร่ง และความสูงส่ง ที่หยั่งรากลึกในมรดกของล้านนา พื้นที่ประกอบไปด้วยห้องประชุมย่อย 11 ห้อง ห้องรับรองพิเศษ (Executive Breakout Suites) และพื้นที่สำหรับการสร้างเครือข่าย (Mingle Space) นอกจากนี้ ภายในคอมเพล็กซ์ยังประกอบด้วย The Wang Bar (เดอะ วัง บาร์), ห้องกอล์ฟซิมูเลเตอร์ส่วนตัว (private golf simulator) แห่งแรกของเชียงใหม่, ห้องคาราโอเกะส่วนตัว และ The Plaii Eatery Café & Bar (เดอะพลาย อีทเทอรี คาเฟ่ แอนด์ บาร์) ทั้งหมดนี้จะเป็นสถานที่ที่เชื่อมต่อ ภาคธุรกิจ ความบันเทิง งานสังสรรค์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
“การเปิดตัวการเปิดตัว Plaii Complex ทำให้ปัจจุบันโรงแรมเชียงใหม่แมริออท มีห้องประชุมรวม 22 ห้อง และพื้นที่จัดงานอเนกประสงค์กว่า 2,800 ตารางเมตร ตอกย้ำตำแหน่งของโรงแรมในฐานะศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับการจัดงานขนาดใหญ่และการประชุมแบบไฮบริด”
ราจัต เสริมอีกว่า กลุ่มประเทศเป้าหมายหลักของเรา จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ ทั้งเกาหลีใต้ ไต้หวัน มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่มาทดแทนกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 40% ที่หายไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งกลุ่มลูกค้าใหม่ จากตะวันออกกลางและสหภาพยุโรป โดยได้รับอานิสงค์จากการเปิดเส้นทางบินตรง อาบูดาบี-เชียงใหม่ จากสายการบินเอทิฮัด ที่มีให้บริการ 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ รวมไปถึงแผนการสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่สองในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะช่วยขยายเส้นทางการบินระหว่างประเทศให้รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวมากขึ้นอีกด้วย
สร้างก่อน ได้เปรียบ ดันเชียงใหม่สู่ MICE แบบยั่งยืน
ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเติบโตสู่เมือง MICE แห่งใหม่ ยืนยันด้วยตัวเลขของอัตราการจองห้องพักช่วง High season เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 90% รวมไปถึงการใช้ห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง ที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้นในช่วงธรรมดา ทั้งช่วงกลางวัน และเย็น เติบโตขึ้น 5-10% รวมไปถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ที่ชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมก็เติบโตเป็นอย่างมาก ของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่พำนักระยะยาว ส่งผลทำให้ การใช้จ่าย และเม็ดเงินหมุนเวียนในเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก
“ด้วยวิสัยทัศน์ของกลุ่ม AWC ที่เชื่อมั่นว่าเชียงใหม่ จะเป็นศูนย์กลางของ MICE แห่งใหม่ของเมืองไทย ได้ลงทุนกับการปรับปรุงโรงแรมจากเดิม Le Méridien Chiang Mai เป็น Chiang Mai Marriott Hotel โดยลงรายละเอียดของการออกแบบภายในโรงแรมอย่างพิถีพิถัน สะท้อนถึงศิลปะ วัฒนธรรมล้านนา รวมไปถึงการก่อสร้าง Plaii Complex ศูนย์การจัดงานและเอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรแห่งแรกและแห่งเดียวในเชียงใหม่ และเรายังได้เปรียบด้วย Royalty program อย่าง Marriott Bonvoy แห่งเดียวในเชียงใหม่ ด้วยแบรนด์และสิทธิพิเศษต่างๆ ดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้มาใช้บริการที่พักของเรา กว่า 80% เป็นสมาชิก สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ Marriott รวมไปถึงกลยุทธ์ Hyper-Personalization ที่เราสามารถปรับแต่งความต้องการของลูกค้าให้ตรงใจได้มากที่สุด ทั้งเรื่องของการตกแต่ง การจัดงานที่ทำตามความต้องการของลูกค้าเพื่อความประทับใจอย่างสูงสุด”
ทำความรู้จัก Rajat Chatterjee ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเชียงใหม่แมริออท

ราจัต แชตเทอร์จี (Rajat Chatterjee) หนึ่งในผู้นำด้านการบริหารโรงแรมระดับนานาชาติสัญชาติอินเดีย ที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปีในอุตสาหกรรมการบริการระดับโลก และความเชี่ยวชาญด้านการเปิดตัวและพัฒนาโรงแรมใหม่หลายแห่งทั้งในเอเชียและตะวันออกกลาง
ในฐานะผู้บริหารภายใต้เครือ Marriott International ราจัตเป็นผู้นำที่ยึดมั่นในค่านิยมหลักของแบรนด์ ได้แก่ “ใส่ใจผู้คนเป็นอันดับแรก มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ เปิดรับการเปลี่ยนแปลง ดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาโลก” เขาเป็นผู้นำที่มุ่งมั่น มีวิสัยทัศน์ชัดเจน และสื่อสารกลยุทธ์การดำเนินงานอย่างตรงไปตรงมา เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ทั้งยังเป็นผู้นำที่ “ทำให้ดูเป็นแบบอย่าง” และปลูกฝังแรงบันดาลใจให้กับทีมงานทุกระดับ
ก่อนหน้านี้ ราจัตเคยดำรงตำแหน่งบริหารในโรงแรมชั้นนำหลายแห่งภายใต้เครือ Marriott ในเมืองสำคัญทั่วเอเชียและตะวันออกกลาง เขาได้รับการยกย่องในฐานะผู้บริหารที่สร้างผลงานโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง อาทิ
- รางวัล “General Manager of the Year 2013” สำหรับภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา
- โรงแรม Dubai Marriott Harbour Hotel & Suites ภายใต้การบริหารของเขาได้รับรางวัล “Hotel of the Year 2013”
- รางวัล “Best Opening GM” สำหรับแบรนด์ Courtyard ทั่วโลกในปี 2006
- รางวัล “Leadership Excellence Award” สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2008
- รางวัล “Thailand Best General Manager 2020” โดย CMO Global
ในปี 2023 ราจัตเป็นผู้นำสำคัญในการ รีแบรนด์โรงแรม Le Méridien Chiang Mai สู่ Chiang Mai Marriott Hotel ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของเครือ Marriott International ในภาคเหนือของประเทศไทย ภายใต้การนำของเขา โรงแรมได้เปลี่ยนผ่านสู่แบรนด์ Marriott อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งด้านมาตรฐานการบริการ วัฒนธรรมองค์กร และค่านิยมของแบรนด์ จนสามารถยกระดับโรงแรมให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจไมซ์
ราจัตยังเป็นผู้นำที่มุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากร โดยได้ส่งเสริมและผลักดันให้พนักงานหลายคนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในเครือ Marriott เช่นเดียวกัน ความเป็นผู้นำที่เปิดกว้าง การสื่อสารที่โปร่งใส และทัศนคติเชิงบวกของเขา ทำให้ทีมงานทุกระดับสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาท้าทายของอุตสาหกรรม เช่น วิกฤตโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมั่นคง
ด้วยแนวคิดที่ผสมผสานความเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์และหัวใจแห่งการบริการ ราจัต แชตเทอร์จี จึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงให้กับ โรงแรมเชียงใหม่แมริออท และยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการบริการของภูมิภาคให้ก้าวสู่ระดับโลกอย่างแท้จริง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา




