ฟังแล้วอาจดูขัดๆ เพราะกลยุทธ์ In-Store Pickup หรือการสั่งออนไลน์ และรับสินค้าที่หน้าร้าน ดูไม่สะดวกในมุมมองหลายคน แต่เชื่อว่ามีบางคนที่อยู่บ้านไม่เป็นเวลา และยอมไปรับสินค้าเอง ทำให้เทรนด์นี้แพร่กระจายมากขึ้น
Walmart-Zara กับผู้นำกลยุทธ์นี้
ตั้งแต่ปลายปีก่อน Walmart เบอร์หนึ่งค้าปลีกในสหรัฐอเมริกา ต้องการต่อกรกับยักษ์ E-Commerce นามว่า Amazon ที่เข้ามาชิงลูกค้าไปจำนวนมาก และเมื่อคิดอยู่ระยะหนึ่ง สุดท้ายก็มาตกผลึกที่กลยุทธ์ In-Store Pickup โดยร่วมมือกับ Cleveron บริษัทผู้ผลิตระบบจัดเก็บสินค้าจากประเทศเอสโตเนีย
โดยบริการ In-Store Pickup ของ Walmart จะทำผ่านหุ่น PackRobot และเพื่อจูงให้ลูกค้ามาใช้บริการนี้ ทางค้าปลีกเบอร์หนึ่งจึงให้ส่วนลดพิเศษ เช่นโทรทัศน์จอแบนราคา 1,698 ดอลลาร์สหรัฐ หากสั่งออนไลน์กับเว็บไซต์ของบริษัทแล้วให้ส่งที่บ้าน ทางร้านจะจัดส่งฟรี แต่ถ้ามารับที่สาขาด้วยตนเอง จะลดราคาให้อีก 50 ดอลลาร์
ที่สำคัญกลยุทธ์นี้ Amazon ก็ไม่สามารถต่อกรได้เต็มที่ เพราะตัวเองไม่มีหน้าร้านเป็นหลักเป็นแหล่ง ซึ่งจากความสำเร็จนี้เอง Zara ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม Fast Fashion ก็อยากนำกลยุทธ์ดังกล่าวไปใช้บ้าง จึงตัดสินใจคุยกับ Cleveron และได้ลงทุนทดลองติดตั้งหุ่นยนต์ CleverFlex ที่ 1 สาขาในประเทศสเปน
สำหรับ CleverFlex นั้นเป็นรุ่นพัฒนาจาก PackRobot แตกต่างกันที่ตัวรูปร่างมีความเรียบหรู และออกแบบในลักษณะ Modular ทำให้เพิ่มตัวเก็บสินค้าได้ตามที่เจ้าของร้านต้องการ สูงสุดที่ 4,000 แพ็คเกจ หรือมากกว่า 2 เท่าของรุ่นที่ Walmart ใช้งานอยู่ นอกจากนี้ Zara ยังเตรียมขยายไปยังสาขาอื่นๆ อีกด้วย
สรุป
ปัจจุบัน Zara มีสาขาทั่วโลกว่า 7,400 แห่ง และมีความเป็นไปได้ที่บริการ In-Store Pickup จะถูกติดตั้งในสาขานอกประเทศสเปนด้วย แต่โดยส่วนตัวมองว่าส่วนลดที่ให้ แต่ไม่มากพอ ก็คงไม่สามารถจูงใจผู้บริโภคให้ไปรับสินค้าที่สาขาได้ เพราะมันไม่ค่อยสะดวกนัก ทางที่ดีคือ นัดแนะกับผู้ส่งให้เรียบร้อย เพื่อกำหนดวันส่งสินค้าที่ชัดเจนคงดีกว่า
อ้างอิง // Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา