‘บ้านมือสอง’ ทะลักเข้าตลาด กรมบังคับคดีประกาศขายพุ่ง 210% เพราะคนไทยหนี้เยอะ ผ่อนไม่ไหว จำต้องปล่อยโดนยึด

เขาว่ากันว่าไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน คนเราก็จะพยายามรักษา ‘บ้าน’ เอาไว้ให้ได้ เห็นได้จากเมื่อต้องตัดสินใจเลือกแล้ว ‘บ้าน’ จะเป็นหนี้ก้อนสุดท้ายที่คนตัดสินใจ ‘หยุดผ่อน’ หรือปล่อยให้โดนยึด แล้วมันต้องลำบากขนาดไหน คนไทยถึงปล่อยให้กรมบังคับคดียึดมาปล่อยขายพุ่งกว่า 200%

ล่าสุด ‘ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์’ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดข้อมูล ‘ตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง’ ในไตรมาส 2/2568 พบว่า ‘บ้านมือสอง’ ถูกประกาศขายเพิ่มขึ้น 34.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

กรมบังคับคดี ประกาศขายพุ่งทะลุ 200%

โดยช่องทางที่มีบ้านมือสองประกาศขาย เพิ่มมากที่สุด คือ ‘กรมบังคับคดี’ ที่มีจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 210% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 213% 

แม้ประกาศขายจาก บุคคลธรรมดาและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ จะมีจำนวนมากกว่าเล็กน้อยด้วยจำนวนหน่วย 68,834 หน่วย แต่ประกาศขายของ ‘กรมบังคับคดี’ ก็มีจำนวนมากถึง 67,641 หน่วย หลังเพิ่มพรวดขึ้นมามหาศาลเมื่อเทียบกับปีก่อน

REIC วิเคราะห์สาเหตุว่า เกิดจากประเทศไทยอยู่ในภาวะหนี้ครัวเรือนสูง ทำให้ประชาชนบางส่วนเริ่มผ่อนจ่ายบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ไม่ไหว จนนำไปสู่กระบวนการบังคับคดี หรือเรียกง่ายๆ ว่า “โดนยึด” นำมาขายทอดตลาดนั่นเอง

หากมาดูเพิ่มเติมจะเห็นว่า ถึงจำนวนประกาศขายจะใกล้ๆ กัน แต่มูลค่าบ้านในประกาศขายของบุคคลธรรมดาและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ กลับสูงกว่ามากถึง 508,179 ล้านบาท แต่มูลค่าบ้านในประกาศขายของ ‘กรมบังคับคดี’ กลับมีมูลค่า 120,301 ล้านบาทเท่านั้น

นั่นเพราะบ้านในประกาศขายของกรมบังคับคดี ส่วนใหญ่เป็นบ้านราคาไม่สูง โดยยังพบว่าประกาศขายของ บ้านในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท กับ บ้านราคา 1.01 – 1.50 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นประกาศจากกรมบังคับคดีมากที่สุด

[ บ้านเดี่ยว-ทาวเฮาส์ มีประกาศขายมากที่สุด ]

ในภาพรวมนั้นอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่มีการประกาศขายมากที่สุด ได้แก่ บ้านเดี่ยว (44.1%) ตามด้วย ทาวน์เฮาส์ (30.1%) ห้องชุด (21.1%) อาคารพาณิชย์ (2.9%) และบ้านแฝด (1.7%)

ส่วน ‘ราคา’ ที่มีการประกาศขายมากที่สุด ได้แก่ 

  • ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท (82.4%)
  • ราคา 1.01 – 1.50 ล้านบาท (57%) 
  • ราคา 1.51 – 2.00 ล้านบาท (33.1%) 
  • ราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท (24.3%) 
  • ราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท (12.7%) 
  • ราคา 5.01 – 7.50 ล้านบาท (7.8%)
  • ราคา 7.5 ล้านบาทขึ้นไป (14%)

ด้าน ‘พื้นที่’ พบว่า 10 อันดับแรกที่มีประกาศขายบ้านมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรีสมุทรปราการ ชลบุรีเชียงใหม่ ปทุมธานี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานีนครปฐม และระยอง

[ คนมองหาบ้านราคาเข้าถึงได้ ทำเลเดียวกับบ้านใหม่ แต่ถูกกว่า ]

ด้านการโอน ‘บ้านมือสอง’ ชะลอตัวถ้าเทียบกับปีก่อน แต่เทียบกับไตรมาสก่อนถือว่าเติบโตขึ้นจากการปรับอัตราการจดจำนองและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 

โดยบ้านประเภทที่มีการโอนมากที่สุดคือ ‘บ้านเดี่ยว’ และราคาที่มีการโอนมากที่สุดคือ ‘ต่ำกว่า 1 ล้านบาท’ สะท้อนว่า คนมองหาบ้านที่ราคาเข้าถึงได้

นอกจากนั้น เมื่อเทียบระหว่างบ้านราคาไม่เกิน 7.5 ล้านกับเกิน 7.5 ล้านแล้วจะเห็นว่า ประกาศของบ้านราคาเกิน 7.5 ล้านลดลงทั้งจำนวนและมูลค่า สะท้อนว่ามีความต้องการบ้านราคานี้ ทำให้ถูกดูดซับออกจากตลาดเรื่อยๆ เพราะเป็นบ้านในทำเลดี แต่ราคาต่ำกว่าตลาด

ว่าง่ายๆ ว่า ‘บ้านมือสอง’ คือทางเลือกของคนที่ยังคงมีเงินในกระเป๋าในเวลานี้ เพราะได้ทำเลแบบเดียวกับบ้านใหม่ แต่ได้ในราคาที่ถูกกว่าในภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเต็มที่ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยช่วยพยุงไม่ให้การโอนกรรมสิทธิ์บ้านและที่อยู่อาศัยหดตัวรุนแรงนั่นเอง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา