ปี 2568 อาจจะเป็น ‘ขาลง’ สำหรับหลายอุตสาหกรรมในไทย แต่ถ้าเป็น ‘มอเตอร์ไซค์’ กลับเห็นการเติบโตที่ทะลุ 100%
ประเด็นนี้ ‘ไทยฮอนด้า’ บอกเองว่า ในช่วงครึ่งปีแรก 2568 ตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยโดยรวมมียอดขายสูงถึง 1.06 ล้านคัน หรือเติบโตขึ้น 101% เทียบกับปีก่อนหน้า และคาดว่าตลอดปี 2568 จะอยู่ที่ 1.68-1.73 ล้านคัน หรือเติบโตประมาณ 101%
ขณะที่ ‘ไทยฮอนด้า’ มียอดขายอยู่ที่ 0.86 ล้านคัน หรือเติบโต 102% ซึ่งสูงกว่าตลาดรวมเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ ส่วนยอดขายทั้งปี 2568 ตั้งเป้าไว้ที่ 1.36-1.40 ล้านคัน หรือประมาณ 102%
ตลาดมอเตอร์ไซต์ไทย ยังมีความหลากหลาย
‘ไทยฮอนด้า’ ชี้ให้เห็นว่าตลาดมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันมีความหลากหลายอย่างชัดเจน โดยสัดส่วนตลาดแบ่งออกเป็นรถเกียร์ธรรมดา 41% เกียร์อัตโนมัติ 56% สปอร์ต-บิ๊กไบค์ 2% และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) 1%
โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ กลุ่มมอเตอร์ไซค์ ‘เกียร์อัตโนมัติ’ เติบโตสูงสุดอยู่ที่ 110% ขณะที่กลุ่ม ‘สปอร์ต’ ลดลงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายมากขึ้น
ซึ่ง ‘ไทยฮอนด้า’ ไม่ได้เน้นทำธุรกิจเพื่อขยายส่วนแบ่งตลาดเพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันในแต่ละเซกเมนต์ โดยจะยังคงให้ความสำคัญกับการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกกลุ่ม
ไม่ว่าจะเป็นรถครอบครัว (เกียร์ธรรมดา) ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มเกษตรกรและผู้ใช้ในชีวิตประจำวัน รถเกียร์อัตโนมัติสำหรับผู้ใช้ในเมือง รถสปอร์ตสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะ และรถบิ๊กไบค์สำหรับผู้ที่มีกำลังซื้อสูง
รับมือภัยธรรมชาติ และเปิดโอกาสธุรกิจใหม่
ในกรณีที่เกิดภัยธรรมชาติในภาคเหนืออย่าง ‘น้ำท่วม’ ทาง ‘ไทยฮอนด้า’ ได้เข้าช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยในจังหวัด ‘น่าน’ อย่างเร่งด่วน โดยให้บริการซ่อมแซมรถที่เสียหายจากน้ำท่วมกว่า 2,000 คัน ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อลูกค้า
แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบให้กำลังซื้อในระยะสั้นลดลง แต่ก็คาดว่าในระยะถัดไปอาจจะเกิดดีมานด์ใหม่ตามมา เนื่องจากรถที่เป็นสินทรัพย์จำเป็นอย่างรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ ‘ไทยฮอนด้า’ มองเห็นโอกาสในการขยายตลาดรถจักรยานยนต์มือสองซึ่งเติบโตขึ้นอย่างน่าสนใจ โดยมีการทำธุรกิจนี้อยู่แล้วผ่านการรับซื้อและจัดจำหน่ายให้กับผู้จำหน่ายและผู้ใช้โดยตรง ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้ครัวเรือนที่มีกำลังซื้อจำกัดสามารถเข้าถึงมอเตอร์ไซค์ที่มีคุณภาพได้ง่ายขึ้น
หากตลาดนี้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ‘ไทยฮอนด้า’ ก็พร้อมที่จะพิจารณาขยาย และให้ความสำคัญกับช่องทางนี้มากขึ้น
แผนการเดินหน้าในตลาด EV และการปรับตัวภายในองค์กร
ถึงแม้การเติบโตของตลาด EV ทั่วโลกจะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ ‘ไทยฮอนด้า’ ยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าตามโรดแมปที่วางไว้ ซึ่งตรงกับพันธกิจของ Honda Motor ในการมุ่งสู่ Zero Carbon ในปี 2593
โดยในช่วงแรก ทางบริษัทได้เน้นการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในกลุ่มธุรกิจ B2B โดยเฉพาะกลุ่ม Delivery โดยมีการติดตั้ง Charging Station แบบตู้เบคซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นจำนวน 54 แห่ง และมีรถ EV สำหรับเช่า (Rental Scheme) จำนวน 800 คัน ได้แก่ รุ่น Benly และ CEV
เมื่อรวบรวมข้อมูล และเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคจนครบถ้วนแล้ว ‘ไทยฮอนด้า’ จึงจะเดินหน้าสู่ตลาด B2C หรือการจำหน่ายให้ผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ EV ที่ตรงกับความต้องการของตลาดมากที่สุด
สำหรับการพัฒนาองค์กรเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ‘ไทยฮอนด้า’ มีการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตมากขึ้น และให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพพนักงาน เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับงานและธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ทำให้มั่นใจได้ว่าองค์กรจะยังคงมีขีดความสามารถในการแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ที่มา: Thai Honda Press Conference & Mid Year Meeting 2025 : Leading The Future
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา